คลินิกวิชาการสารสัมพันธ์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 | กลุ่มนิเทศฯ สพป.จันทบุรี เขต 1


คลินิกวิชาการสารสัมพันธ์ 

กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1

ปีที่ 1 ฉบับที่ 4 วันที่ 7 ธ.ค. 2566

วิสัยทัศน์ "นิเทศการศึกษาแนวใหม่ ใช้กระบวนการวิจัยและเทคโนโลยีเป็นฐาน ประสานเครือข่าย พัฒนาก้าวไกล สู่ Thailand 4.0"


          วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 นางมลฑาศรีเสริม ศึกษานิเทศก์ ได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการการประเมินผลการควบคุมภายใน ประจำปีงบประมาณ 2566ดำเนินการประเมินผลการควบคุมภายในของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 1 



          วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 สพฐ. ได้จัดประชุมเครือข่ายโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบระดับประถมศึกษา เพื่อเตรียมการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2567 ในรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบZOOM Meetingโดยมีนางสาวสกุลยา ผลบุญศึกษานิเทศก์ สพป.จันทบุรี เขต1 เข้าร่วมการประชุมร่วมกับโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบโรงเรียนสฤษดิเดช ณ ห้องประชุม ตึกอำนวยการชั้น 3 โรงเรียนสฤษดิเดช
 


 

          วันที่ 1 ธันวาคม 2566คณะศึกษานิเทศก์ สพป.จันทบุรี เขต 1 นิเทศ กำกับติดตามการดำเนินโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับปฐมวัยโดยนางสาวสกุลยา ผลบุญ นางมลฑาศรีเสริม นางสาวพรรณิภา เจริญทวีด้วยรูปแบบออนไลน์ผ่านระบบ googlemeet




 

-------------------------------------------------------------------------

การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

กลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาสื่อนวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา

นายวริทธิ์นันท์ วิทยม


          สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกล่าวถึงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไว้ว่า(สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา,2563:7) สถานศึกษาสามารถออกแบบการเรียนรู้ได้ทั้งรูปแบบกิจกรรมในห้องเรียนและกิจกรรมนอกห้องเรียนกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงและเป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนให้ความสนใจให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดีคือการเรียนรู้ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ทั้งนี้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อาจจัดได้ทั้งรูปแบบกิจกรรมในห้องเรียนและกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งการเรียนรู้เนื้อหาสาระ หลักการ และทฤษฎีในห้องเรียนจะเป็นรูปธรรม เข้าใจได้ง่ายและชัดเจนขึ้นเมื่อผู้เรียนได้สัมผัสรับรู้ เกิดประสบการณ์ตรงจากสิ่งที่เรียนรู้หรือกำลังศึกษาจากการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียนเช่น การทำโครงงานประวัติศาสตร์ การทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวาสร้างประสบการณ์ ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เกิดเป็นการสร้างการเรียนรู้ที่มีความหมายให้แก่ผู้เรียน แหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นคือสถานที่สำคัญในท้องถิ่นที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมา พัฒนาการของสถานที่ บุคคลฯลฯ ให้เห็นเป็นการเฉพาะและสามารถสืบค้นได้เช่นโรงเรียน วัด มัสยิด โบสถ์ อนุสาวรีย์ ตลาด ย่านการค้า แหล่งชุมชนโบราณ ป้ายจารึกพิพิธภัณฑ์ในท้องถิ่นการประกอบอาชีพวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีหรืออาจหมายถึงบุคคลสำคัญปราชญ์หรือภูมิปัญญาในท้องถิ่น ฯลฯองค์ประกอบสำคัญของการจัดการเรียนรู้ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ได้แก่ การกำหนดเนื้อหาที่ชัดเจนการกำหนดกิจกรรมให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติกิจกรรมในพื้นที่แหล่งเรียนรู้การประเมินทักษะต่าง ๆ ของผู้เรียน โดยครูผู้สอนต้องวางแผนการดำเนินงาน3ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นเตรียมการก่อนออกเดินทางขั้นศึกษาแหล่งเรียนรู้ (การลงพื้นที่)และขั้นนำเสนอผลงาน (การสรุปงาน)


เอกสารอ้างอิง

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.(2563).การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

  

-------------------------------------------------------------------------