รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา
(Self - Assessment Report : SAR)
ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนบ้านต้นกระบก

 ส่วนที่ 1 บทสรุปผู้บริหาร
 1.1 ภาพรวมของคุณภาพการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา

ส่วนที่ ๑

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

โรงเรียนบ้านต้นกระบกตั้งอยู่เลขที่ ๗ หมู่ ๗ ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๒๒๑๖๐ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาลปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โดยมีนางสาวสุกัญญา พูลกสิ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน วุฒิการศึกษาสูงสุด ปริญญาโทสาขาการบริหารการศึกษาหมายเลขโทรศัพท์๐๘๗ - ๙๙๘๓๖๕๒ ปัจจุบันมีบุจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษา ๑๗ คน แยกเป็นข้าราชการครู ๑๔ คน บุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ๑ คน ครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ ๑ คน เจ้าหน้าที่ธุรการ ๑ คน มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด ๑๗๐ คนแยกเป็นนักเรียนชั้นปฐมวัยจำนวน ๓๓ คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จำนวน ๑๓๗ คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓)

จัดทำรายงานการประเมินคุณภาพของตนเอง (SAR) ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานอื่นๆ ผลการประเมินตนเองในภาพรวมอยู่ในระดับ ดีเลิศ มีผลการดำเนินงาน ดังต่อไปนี้

ผลการประเมินตนเองระดับการศึกษาปฐมวัย

โรงเรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

โรงเรียนกำหนดมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัยจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่

มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของเด็ก ผลการประเมินระดับคุณภาพดีเลิศโรงเรียนบ้านต้นกระบกมีกระบวนการพัฒนาเด็กที่หลากหลาย ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ โรงเรียนจัดให้เด็กได้รับประทานอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปริมาณเหมาะสมตามวัย มีการควบคุมดูแลให้เด็กดื่มนมเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ภาคเรียนละ 2 ครั้ง มีกิจกรรมออกกำลังกายทุกวัน มีการจัดบอร์ดให้ความรู้แก่เด็กเกี่ยวกับโรคติดต่อในชุมชน โรคติดต่อจากการอยู่ร่วมกัน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน มีการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนายายอามในการดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัยของเด็ก นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้เด็กได้เล่นกีฬาตามความสามารถ สนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในโรงเรียน คือกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียน มีการจัดกิจกรรมเรียนรู้สู่โลกกว้างเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ มีมารยาทในการรับประทานอาหาร รู้จักดูแลรักษาความสะอาด ทั้งภายในและนอกห้องเรียน รู้จักช่วยเหลือ แบ่งปันเพื่อนในห้องเรียน ทำงานร่วมกับเพื่อน ได้ โดยการใช้กิจกรรมกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ รู้จักเก็บของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ของตน และของส่วนรวม ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักประเพณีวัฒนธรรมด้วยกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย รู้จักทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ครู โดยจัดกิจกรรมวันสำคัญทางชาติ และทางพระพุทธศาสนา เช่น วันพ่อ วันแม่ วันไหว้ครู วันเข้าพรรษา ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ปลูกฝังให้เด็กมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาสิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตน มีความอดทน มีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ยิ้มแย้มแจ่มใส มีการจัดกิจกรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี ให้นักเรียนได้วาดภาพ ระบายสี เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ ให้เด็กได้ทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ทั้งในและนอกห้องเรียน และยังส่งเข้าร่วมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมทุกปี

โดยครูได้ดำเนินการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมีการจัดกิจกรรมร้อง เล่น เต้น อ่าน ให้เด็กได้แสดงออกตามศักยภาพของตน โรงเรียนได้ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ โดยการเข้าร่วมโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย ทำให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติการทดลอง การสังเกต ความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแก้ปัญหา มีการจัดกิจกรรมโครงงานเพื่อการเรียนรู้ โดยส่งเสริมให้เด็กมีความสนใจเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว กล้าซักถาม มีการจัดทำโครงการหนูน้อยรักการอ่าน เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีทักษะทางภาษา มีนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมให้เด็กได้เสนอผลงานด้วยภาษาที่เหมาะสมตามวัย จัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก เรียนรู้นอกสถานที่ แก้ปัญหาในสถานการณ์จริง

มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ผลการประเมินระดับคุณภาพ ดีเลิศ การจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนบ้านต้นกระบกได้มีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจของสถานศึกษาไว้อย่างชัดเจนมีองค์ประกอบที่สำคัญเพื่อที่จะขับเคลื่อนการศึกษาระดับปฐมวัยได้แก่ การพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ได้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นโดยพิจารณาจากวัยของเด็ก ประสบการณ์ของเด็ก โดยเป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาเด็กทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญาเพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้มีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีศักยภาพโดยให้ผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายได้มีบทบาทในการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษา โดยให้มีการประสานความร่วมมือร่วมกันพัฒนาผู้เรียนต่อไป โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพให้มีอุปกรณ์ ของเล่นของใช้ เครื่องนอน เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พอเพียงกับเด็ก โดยจัดให้เหมาะสม สะอาดปลอดภัยให้มีมุมหนังสือที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก ให้เพียงพอและเหมาะสมกับวัย จัดให้มีเครื่องเล่นสนาม เครื่องเล่นน้ำเล่นทราย ที่เหมาะสมปลอดภัย จัดให้มีพื้นที่สำหรับแปรงฟัน ล้างมือทำความสะอาดร่างกาย ห้องน้ำห้องส้วม พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น และเหมาะสมกับเด็ก มีหลักสูตรปฐมวัยที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาเป็นรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเตรียมความพร้อมเน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง สอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่นจัดครูที่เหมาะสมกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือมีครูประจำการที่จบการศึกษาปฐมวัย ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องพัฒนาคุณภาพครูด้านการศึกษาปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ครูปฐมวัยทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยมีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล มีประสบการณ์ในการออกแบบการจัดกิจกรรม ทักษะการสังเกต และการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและผู้ปกครองมีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เรียน มีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษาติดตามผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปีมีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง

มาตรฐานที่ ๓ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ผลการประเมินระดับคุณภาพ ดีเลิศ จัดการศึกษาปฐมวัยมุ่งเน้นความสำคัญของการพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา มีความรู้คู่คุณธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุขภายใต้คำว่า เก่ง ดีมีสุข จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายอารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัยของโรงเรียน มีการใช้สื่อ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย จัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมความสนใจให้แก่ผู้เรียน ชั้นเรียนมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกันซึ่งเป็นแรงจูงใจภายนอกที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียน และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่เด็กนักเรียน ห้องเรียนมีบรรยากาศ แจ่มใสกว้างขวางพอเหมาะมีมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใสและมีสื่อการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดประสบการณ์การเรียนการสอน การประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และการจัดกิจวัตรประจำวัน ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต การสอบถาม การสำรวจและการวิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมเพื่อได้นำผลการประเมินไปพัฒนาศักยภาพของเด็กและพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาครูต่อไป มีการจัดทำแผนการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยมีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษาติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปีมีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมพร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง

ผลการประเมินตนเองระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

โรงเรียนมีผลการประเมินอยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

โรงเรียนกำหนดมาตรฐานระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน ๓ มาตรฐาน ได้แก่

มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ผลการประเมินระดับคุณภาพ ดีเลิศ โดยมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกำหนดโครงการ/ กิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนหลากหลายวิธีการ จัดกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ ส่งเสริมนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันกิจกรรมทางวิชาการและกีฬาที่หลากหลาย เพื่อฝึกทักษะและประสบการณ์ด้านร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา ส่งเสริมนักเรียนเข้าร่วมทดสอบทางวิชาการตามความสมัครใจมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ระดับดีขึ้นไปร้อยละ ๘๑.๕๘ การอ่านคิดวิเคราะห์ เขียนระดับดีขึ้นไปร้อยละ ๑๐๐.๐๐ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ระดับดีขึ้นไปร้อยละ ๙๙.๒๕ สมรรถนะสำคัญตามหลักสูตร ๙๙.๑๐ ความสามารถในการอ่านระดับดีขึ้นไปร้อยละ ๙๖.๓๐ ความสามารถในการเขียนระดับดีขึ้นไป ๙๔.๔๔ ผลการประเมินการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (Nation Test: NT) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ ภาษาไทยเฉลี่ยร้อยละ ๕๕.๐๕ ด้านคณิตศาสตร์ร้อยละ ๔๓.๕๕ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary Nation Education Test : O-NET) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย ๕๓.๖๐ วิชาคณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ย ๒๙.๒๓ วิชาวิทยาศาสตร์คะแนนเฉลี่ย ๓๘.๙๐ วิชาภาษาอังกฤษคะแนนเฉลี่ย ๓๕.๑๙ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ วิชาภาษาไทยคะแนนเฉลี่ย ๕๖.๕๐ วิชาคณิตศาสตร์คะแนนเฉลี่ย ๑๖.๘๐ วิชาวิทยาศาสตร์คะแนนเฉลี่ย ๒๓.๙๖ วิชาภาษาอังกฤษคะแนนเฉลี่ย ๓๐.๕๐

มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ผลการประเมินระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม โดยมีการจัดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ดำเนินการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจน สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยได้ประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อการดำเนินงานจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ ผ่านการเห็นชอบโดยคณะกรรมการสถานศึกษา ทำให้โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสถานศึกษาได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับวิทยาลัยการอาชีพนายายอาม ดำเนินงานพัฒนาวิชาการผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงกับชีวิตจริง โดยดำเนินการจัดการศึกษาสู่อาชีพ รายวิชางานช่างสู่อาชีพการจับจีบผ้า การตัดผม การทำเบเกอรี่ การทำขนมไทย ปลูกผักสวนครัว การทำอาหารไทย สนับสนุนให้ครูทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพ มีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ จัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม

มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีผลการประเมินระดับ ดีเลิศ

ครูจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐาน การเรียนรู้ ตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถ นำไปจัดกิจกรรมได้จริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ โดยการวางแผนและบริหารจัดการชั้นเรียนที่เป็นระบบ จัดทำเอกสาร ในชั้นเรียนอย่างถูกต้องและครบถ้วน มีการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองผู้เรียนในหลายช่องทาง มีการนำแผนการสอนไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning สอนแบบโครงงาน การสอนแบบสะเต็มศึกษา การสอนแบบทักษะปฏิบัติจริง มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนภาคเรียนละ ๑ เรื่อง ผลิตและใช้สื่อการสอนที่สอดคล้องกับกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) มีสื่อนวัตกรรมและแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาผู้เรียน

 


 

 1.2 หลักฐานสนับสนุนผลการประเมินตนเอง

ร่องรอยการพัฒนา/โครงการ/กิจกรรม/หลักฐาน ที่ได้ดำเนินการ

- แผนการจัดการเรียนรู้ของครู

- บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และรายงานการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอน

- แบบบันทึกผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายวิชา

- กิจกรรมรักการอ่าน

- กิจกรรมแข่งขันทักษะวิชาการทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน

- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

- ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนจากแบบประเมินคุณภาพการศึกษา สถานศึกษา

- สารสนเทศผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน


การกำหนดค่าเป้าหมายแนบท้ายประกาศโรงเรียนบ้านต้นกระบก

เรื่อง การกำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้

ค่าเป้าหมาย

เชิงปริมาณ/เชิงคุณภาพ

มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน

ระดับดีเลิศ

๑.๑ ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน

ร้อยละ ๘๑.๕๘ ได้ระดับดีเลิศ

๑)

มีความสามารถในการอ่าน เขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ

ร้อยละ ๘๔.๐๗ ได้ระดับดีเลิศ

๒)

มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดวิจารณญาณ อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ปัญหา

ร้อยละ ๑๐๐.๐๐ ได้ระดับยอดเยี่ยม

)

มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

)

มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร

ร้อยละ ๗๕.๔๐ ได้ระดับดีเลิศ

)

มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา

ร้อยละ ๘๑.๕๘ ได้ระดับดีเลิศ

)

มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน เจตคติที่ดีต่องานอาชีพ

ร้อยละ ๘๓.๓๓ ได้ระดับดีเลิศ

๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน

ระดับดีเลิศ

๑)

การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด

ร้อยละ ๙๙.๒๕ ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒)

ความภูมิใจในท้องถิ่น และความเป็นไทย

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

)

การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและความหลากหลาย

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

)

สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม

ร้อยละ ๘๕.๐๙ ได้ระดับดีเลิศ

มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ

ระดับยอดเยี่ยม

๒.๑

มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน

ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒.๒

มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา

ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒.๓

ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย

ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒.๔

พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ

ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒.๕

จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ อย่างมีคุณภาพ

ได้ระดับยอดเยี่ยม

๒.๖

จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้

ได้ระดับยอดเยี่ยม

 

มาตรฐาน/ตัวบ่งชี้

ค่าเป้าหมาย

เชิงประมาณ/เชิงคุณภาพ

มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ระดับดีเลิศ

๓.๑

จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

๓.๒

ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

๓.๓

มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

๓.๔

ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน

ร้อยละ ๗๕.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ

๓.๕

มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้

ร้อยละ ๘๐.๐๐ ได้ระดับดีเลิศ


การกำหนดค่าเป้าหมาย

๑. ศึกษาข้อมูลเดิม ผลการประเมินต่างๆ ที่ผ่านมาเพื่อเป็นข้อมูลฐานในการกำหนดค่าเป้าหมาย

๒. การกำหนดค่าเป้าหมาย แต่ละมาตรฐาน ควรกำหนดเป็น ระดับคุณภาพ ๕ ระดับเพื่อให้สอดคล้องกับการประเมิน ดังนี้

ตารางกำหนดค่าร้อยละกับระดับคุณภาพ

ค่าร้อยละ

ระดับคุณภาพ

ร้อยละ ๙๐.๐๐ ขึ้นไป

ยอดเยี่ยม

ร้อยละ ๗๕.๐๐ – ๘๙.๙๙

ดีเลิศ

ร้อยละ ๖๐.๐๐ – ๗๔.๙๙

ดี

ร้อยละ ๕๐.๐๐ – ๕๙.๙๙

ปานกลาง

ร้อยละ ๐.๐๐ – ๔๙.๙๙

กำลังพัฒนา

 

๓. การกำหนดค่าเป้าหมาย ในแต่ละประเด็นพิจารณา จะกำหนดเป็นระดับคุณภาพ

และเป็น ร้อยละตามความเหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา

 1.3 แผนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาในปีถัดไป

แนวทางการพัฒนาในอนาคต

๑. พัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นระบบมีการใช้กระบวนการวิจัยในการดำเนินงาน และมีการสร้างเวทีส่งเสริมให้ผู้เรียนเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ และแสดงผลงานอย่างต่อเนื่อง

๒. ให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดต่าง ๆ มากขึ้นโดยมีการวางแผนการจัดการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และมีการประเมินความสามารถในการคิดของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ

๓. ดำเนินงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนอย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

๔. เพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการประเมินคุณภาพภายในแล้วนำมาสู่การระดมความคิดเพื่อพัฒนาสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ

๕. จัดระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อการบริหารจัดการในสถานศึกษา เช่น การวางระบบการดูแลนักเรียน การให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้ปกครองเพื่อการสร้างการร่วมมือในการดูแลนักเรียน

.พัฒนาครูให้ทำการวิจัยในชั้นเรียนเพื่อนำผลของงานวิจัยนั้นไปพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

. สร้างเครือข่ายความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษาและการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษา

. ครูจัดกิจกรรมสร้างสื่อเทคโนโลยีและการสอนเสริมทั้งในและนอกเวลาเรียนเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้และมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น

. จัดให้มีภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้พัฒนาระบบบริหารให้มีความคล่องตัวในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

 

 


 

 


 ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR)
 2.1 ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานศึกษา (ที่ตั้ง การจัดการศึกษา สภาพชุมชน เศรษฐกิจและสังคมโดยรวม เป็นต้น)

 

๒.๑ ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษา

๒.๑.๑ ข้อมูลทั่วไป

ชื่อโรงเรียน : บ้านต้นกระบก

ที่ตั้ง : ๗ หมู่ที่ ๗ ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ ๒๒๑๖๐

สังกัด : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต ๑

E-Mail : tonkabok@gmail.com

เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

จำนวนนักเรียน ๑๗๐ คนจำนวนบุคลากรของโรงเรียน ๑๘ คน

 

๒.๑.๒ สภาพชุมชน

             ๑) สภาพเศรษฐกิจของชุมชนและผู้ปกครอง (รายได้)

ตารางแสดงรายได้ของประชากรในหมู่ ๗, ๑๐ ตำบลนายายอาม พ.ศ. ๒๕๖๓

หมู่ที่

จำนวนครัวเรือน

รายได้เฉลี่ย/ครัวเรือน/ปี ( บาท )

หมายเหตุ

๗ (ในเขตเทศบาล)

๑๔๗

๖๐,๐๐๐

-

๗ (นอกเขตเทศบาล)

๓๔

-

๑๐

๔๕

๖๐,๐๐๐

รายได้เฉลี่ยต่ำกว่า ๔๐,๐๐๐บาท/ปี

๒๐ ครัวเรือน

 

ที่มาของข้อมูล 1. ข้อมูล จปฐ. ปี ๒๕๖๓

2. สำนักงานเทศบาลตำบลนายายอาม

3. ที่ทำการ อบต.นายายอาม

 

            ๒) อาชีพของประชากรในชุมชน

๒.๑ ทำสวน

-สวนผลไม้ สวนยางพารา

๒.๒. ค้าขายทั่วไป

-ร้านค้า ๕ แห่งค้าขายตลาดนายายอาม ๕ ราย

๒.๓ เลี้ยงสัตว์

-หมู ปลา ไก่ มีบ้าง มีฟาร์มไก่ไข่ ๑ ฟาร์ม ตะพาบ เหลือน้อยเพราะราคาตกต่ำ และจระเข้ มี ๑ ฟาร์ม

๒.๔ รับจ้าง ทั่วไป

- รับจ้าง และทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมยางพารา , กุ้ง

๒.๕ บริการ

-เสริมสวย ตัดผม ๑ แห่ง

         ๓) สภาพสังคมและวัฒนธรรมของชุมชน

 ความเชื่อประชากรบางส่วนยังมีความเชื่อในเรื่องของโชคลาง การบนบานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในชุมชนนับถือกันมากคือศาลเจ้าเเม่ต้นกระบกซึ่งเชื่อกันว่ามีวิญญาณของเจ้าแม่สิงสถิตอยู่ และคอยปกปักรักษาคนในหมู่บ้านตลอดมา ผู้ที่บนบานต่อเจ้าแม่มักจะประสบความสำเร็จตามที่บนบานเสมอ

ความเป็นอยู่ ประชากรมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบสังคมชนบท ผสมสังคมเมือง เนื่องจากอิทธิพลของความเจริญและเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่มากขึ้น ส่วนใหญ่มีลักษณะนิสัยสนุกสนานร่าเริง

ชอบการร้องรำทำเพลง

ประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญ

- วันขึ้นปีใหม่ มีกิจกรรมทำบุญตักบาตรที่วัด ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในตลาด

- วันสงกรานต์ มีกิจกรรมทำบุญตักบาตรที่วัด รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และการละเล่นต่างๆ

-วันเข้าพรรษา มีกิจกรรมแห่เทียนจำนำพรรษาและถวายเทียนแก่วัด ในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลง คือมีการถวายหลอดไฟฟ้าแทนเทียนจำนำพรรษาในบางแห่ง

การนับถือศาสนาประชากรในชุมชนนับถือศาสนาพุทธ มีสถานประกอบพิธีกรรมทางศาสนา คือวัดต้นกระบก และสำนักสงฆ์วัดป่าธรรมสุข ขนบธรรมเนียมประเพณีเกี่ยวกับศาสนาที่สำคัญและปฏิบัติสืบทอดกันมาคือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา มีการทำบุญตักบาตรที่วัด และมีการเวียนเทียนในตอนกลางคืน




 

 

การบริหารจัดการ (วิสัยทัศน์ พันธกิจ อัตลักษณ์ เป้าประสงค์)

 วิสัยทัศน์ของโรงเรียนบ้านต้นกระบก

มุ่งเน้นจัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน เป็นโรงเรียนดีมีคุณภาพของชุมชน พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ คู่คุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยีโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พันธกิจ

๑.พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ มีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทย และรับผิดชอบต่อสังคม

๒.ส่งเสริมครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถมีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ

๓.พัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา

๔.จัดกระบวนการการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลที่หลากหลายอย่างมีคุณภาพเอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนอย่างรอบด้าน

๕.พัฒนาการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล

๖.ประสานความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครองชุมชน และสร้างภาคีเครือข่าย เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษา

 เป้าประสงค์

๑. ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข มีความรู้ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ ต่อตนเองและสังคม บนพื้นฐานความเป็นไทย น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การดำรงชีวิต

๒. ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานสากล

๓.โรงเรียนพัฒนาสื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษาเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและนักเรียนใช้ในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ

๔.โรงเรียนมีการจัดกระบวนการเรียนการสอนกิจกรรมการเรียนรู้การวัดและประเมินผลที่มีคุณภาพที่เอื้อต่อการพัฒนานักเรียนอย่างรอบด้าน

๕.โรงเรียนมีการบริหารจัดการศึกษาอย่างมีระบบตามหลักธรรมาภิบาล

๖. ชุมชน ผู้ปกครองและภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ

ข้อมูลบุคลากร (ผู้บริหาร ครู พนักงานราชการ อัตราจ้าง พนักงานธุรการ ภารโรง)

ผู้บริหาร ครู พนักงานราชการ อัตราจ้าง พนักงานธุรการ ภารโรง
1 14 0 2 1 0


ข้อมูลนักเรียน (นำเสนอเป็นกราฟ)

ข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษา/ศึกษาต่อ (นำเสนอเป็นกราฟ)

ข้อมูลหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอน

โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา

โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของสถานศึกษาสำหรับหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๕๑ โรงเรียนได้จัดสัดส่วนสาระการเรียนรู้และเวลาเรียน ดังแสดงในตารางต่อไปนี้

โครงสร้างหลักสูตรเวลาเรียนโรงเรียนบ้านต้นกระบกระดับประถมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้/ กิจกรรม

เวลาเรียน(ชั่วโมง/ปี)

ระดับประถมศึกษา

ป.๑

ป.๒

ป.๓

ป.๔

ป.๕

ป.๖

 

 กลุ่มสาระการเรียนรู้(พื้นฐาน)

๘๔๐

๘๔๐

๘๔๐

๘๔๐

๘๔๐

๘๔๐

ภาษาไทย

๒๐๐

๒๐๐

๒๐๐

๑๖๐

๑๖๐

๑๖๐

คณิตศาสตร์

๒๐๐

๒๐๐

๒๐๐

๑๖๐

๑๖๐

๑๖๐

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๘๐

๘๐

๘๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

๔๐

๔๐

๔๐

๘๐

๘๐

๘๐

ประวัติศาสตร์

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

สุขศึกษาและพลศึกษา

๔๐

๔๐

๔๐

๘๐

๘๐

๘๐

ศิลปะ

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

การงานอาชีพ

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

ภาษาอังกฤษ

๑๖๐

๑๖๐

๑๖๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

รายวิชาเพิ่มเติม

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๖๐

๑๖๐

๑๖๐

หน้าที่พลเมือง

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

การป้องกันการทุจริต

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

ดนตรี

-

-

-

๔๐

๔๐

-

คณิตศาสตร์เพิ่มเติม

-

-

-

-

-

๔๐

 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

กิจกรรมแนะแนว

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

กิจกรรมนักเรียน

- กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี

- ชุมนุม

๔๐

๓๐

๔๐

๓๐

๔๐

๓๐

๔๐

๓๐

๔๐

๓๐

๔๐

๓๐

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

รวมเวลาเรียนทั้งหมด

๑,๐๘๐ ชั่วโมง/ปี

๑,๑๒๐ ชั่วโมง/ปี


โครงสร้างหลักสูตรเวลาเรียนโรงเรียนบ้านต้นกระบกระดับมัธยมศึกษา

กลุ่มสาระการเรียนรู้/กิจกรรม

เวลาเรียน

ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ม.๑

ม.๒

ม.๓

 กลุ่มสาระการเรียนรู้

๘๘๐

๘๘๐

๘๘๐

ภาษาไทย

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

คณิตศาสตร์

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

วิทยาศาสตร์พื้นฐาน

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

วิทยาการคำนวณ

๔๐

๔๐

๔๐

สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
- พระพุทธศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

- เศรษฐศาสตร์

- ภูมิศาสตร์

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

ประวัติศาสตร์

๔๐

๔๐

๔๐

สุขศึกษาและพลศึกษา

๘๐

๘๐

๘๐

ศิลปะ

๘๐

๘๐

๘๐

การงานอาชีพ

๔๐

๔๐

๔๐

ภาษาต่างประเทศ

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

 รายวิชา/กิจกรรมที่สถานศึกษาจัดเพิ่มเติม

๑๖๐

๑๖๐

๑๖๐

การงานอาชีพ

หน้าที่พลเมือง

วิทยาการออกแบบ (คอมพิวเตอร์)

การป้องกันการทุจริต

วิทยาศาสตร์(เพิ่มเติม)

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

-

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

-

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

๔๐

 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

๑๒๐

๑๒๐

๑๒๐

กิจกรรมแนะแนว

๔๐

๔๐

๔๐

กิจกรรมนักเรียน

- ลูกเสือ เนตรนารี

- ชุมนุม

 

๔๐

๓๐

 

๔๐

๓๐

 

๔๐

๓๐

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

๑๐

๑๐

๑๐

รวมเวลาเรียนทั้งหมด

๑๑๖๐/ปี

 

 



ข้อมูลอาคารสถานที่ (นำเสนอเป็นความเรียง หรือกราฟ หรือแผนภูมิ)

ข้อมูลอาคาร

โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีอาคารเรียนและอาคารประกอบดังนี้

๑. อาคารเรียนแบบ สปช.๐๑๗ (อาคาร ๑) จำนวน๑ หลัง ๘ ห้อง

๒. อาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๕/๒๙ (อาคาร ๒) จำนวน ๒ หลัง ๘ ห้อง

๓. อาคารเรียนแบบ สปช.๑๐๕/๒๙ (อาคาร ๓) จำนวน ๑ หลัง ๔ ห้อง

๔. โรงฝึกงาน ( โรงอาหาร, อาคารอเนกประสงค์ ) จำนวน ๑ หลัง

๕. บ้านพักครู จำนวน ๒ หลัง

๖. ห้องน้ำ – ห้องส้วม ขนาด ๑๖x๒๖ จำนวน ๓หลัง ( ๑๕ ที่ )

๗. หอสมุดโรงเรียนบ้านต้นกระบก จำนวน ๑หลัง


หลักฐานอ้างอิง :
ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา (นำเสนอเป็นความเรียง หรือกราฟ)

แหล่งเรียนรู้ภายใน – นอกโรงเรียน

ข้อมูลแหล่งเรียนรู้โรงเรียนบ้านต้นกระบกเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต ๑

ที่

ชื่อแหล่งเรียนรู้

จำนวน

 

แหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน

๑.

๒.

๓.

๔.

 

 

 

 

 

 

 

 

๕.

๖.

๗.

๘.

๙.

๑๐.

๑๑.

๑๒.

๑๓.

๑๔.

๑๕.

๑๖.

๑๗.

๑๘.

อาคารเรียน

จำนวนห้องเรียน

อาคารประกอบ

อาคารอเนกประสงค์

- ห้องปฎิบัติการพิเศษ

- ห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์

- ห้องปฎิบัติการทางภาษา

- ห้องปฎิบัติการคอมพิวเตอร์

- ห้องจริยธรรม

- ห้องพยาบาล

- ห้องปฎิบัติการคหกรรม

- ห้องสื่อการเรียนการสอน

ห้องสมุดขนาด ๖x๙ ตารางเมตร

จำนวนหนังสือในห้องสมุด

จำนวนคอมพิวเตอร์

แหล่งติดตั้งอินเตอร์เน็ต(สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา)

สนามกีฬา

สนามฟุตบอล

สนทนาภาษาอังกฤษบนฝาผนัง

สนามวอลเลย์บอล

สนามตะกร้อ

สนามบาสเก็ตบอล

ห้องน้ำ

โรงอาหาร

สวนสมุนไพร

สวนป่าในบริเวณโรงเรียน

๓ หลัง

๑๑ ห้อง

๑ หลัง

 

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๑ ห้อง

๕๐๐ เล่ม

๒๗ เครื่อง


๑ สนาม

๑ สนาม

๑๕ จุด

๑ สนาม

๑ สนาม

๑ สนาม

๒ หลัง

๑ โรง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

 

 

 

ที่

ชื่อแหล่งเรียนรู้

จำนวน

๑๙.

๒๐.

๒๑.

๒๒.

๒๓.

๒๔.

       ๒๕.

สระบัว สวนหย่อม

สนามเด็กเล่น

เสาธง

ศาลานั่งพักผ่อน

สวนผลไม้

ครู อาจารย์ในโรงเรียน

ภาพวาดฝาผนังโรงเรียน

๑ สระ

๑ สนาม

๑ แห่ง

๑ หลัง

๑ แห่ง

๑๔ คน

๕ แห่ง

 

แหล่งเรียนรู้ในชุมชน

๑.

๒.

๓.

๔.

๕.

๖.

๗.

๘.

๙.

๑๐.

๑๑.

๑๒.

๑๓.

๑๔.

๑๕.

๑๖.

๑๗.

 

สวนผลไม้

สวนยางพารา

ฟาร์มเลี้ยงไก่

ฟาร์มเลี้ยงหมู

ร้านค้า

ไร่สับปะรด

ไร่มันสำประหลัง

ภูเขา

วัด

บริษัทผลิตภัณฑ์ยางพารา

สถานีอนามัย

โรงพยาบาล

ที่ว่าการอำเภอ

สำนักงานเทศบาล

สถานีพัฒนาที่ดิน

สถานีตำรวจ

ตลาด

         ๕ สวน

        ๕ สวน

๑ ฟาร์ม

๑ ฟาร์ม

๕ ร้าน

๑ แห่ง

๒ แห่ง

๑ เขา

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

๑ แห่ง

 

 


หลักฐานอ้างอิง :
 ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
1) ผลการประเมินพัฒนาการระดับปฐมวัย (นำเสนอเป็นกราฟ) สำหรับสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย


2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (นำเสนอเป็นกราฟ)


3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.1) ผลการทดสอบระดับชาติ RT (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.2) ผลการทดสอบระดับชาติ NT (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.3) ผลการทดสอบระดับชาติ O-NET (นำเสนอเป็นกราฟ)


5) ผลการประเมินสมรรถนะ (นำเสนอเป็นกราฟ)


 2.2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา
 2.2.1 ระดับปฐมวัย
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีกระบวนการพัฒนาเด็กที่หลากหลาย ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ โรงเรียนจัดให้เด็กได้รับประทานอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปริมาณเหมาะสมตามวัย มีการควบคุมดูแลให้เด็กดื่มนมเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ภาคเรียนละ 2 ครั้ง มีกิจกรรมออกกำลังกายทุกวัน มีการจัดบอร์ดให้ความรู้แก่เด็กเกี่ยวกับโรคติดต่อในชุมชน โรคติดต่อจากการอยู่ร่วมกัน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน มีการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนายายอามในการดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัยของเด็ก นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมให้เด็กได้เล่นกีฬาตามความสามารถ สนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในโรงเรียน คือกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียน มีการจัดกิจกรรมเรียนรู้สู่โลกกว้างเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีวินัยในตนเอง มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ มีมารยาทในการรับประทานอาหาร รู้จักดูแลรักษาความสะอาด ทั้งภายในและนอกห้องเรียน รู้จักช่วยเหลือ แบ่งปันเพื่อนในห้องเรียน ทำงานร่วมกับเพื่อน ได้ โดยการใช้กิจกรรมกลุ่มในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ รู้จักเก็บของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ของตน และของส่วนรวม ปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักประเพณีวัฒนธรรมด้วยกิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย รู้จักทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ครู โดยจัดกิจกรรมวันสำคัญทางชาติ และทางพระพุทธศาสนา เช่น วันพ่อ วันแม่ วันไหว้ครู วันเข้าพรรษา ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ปลูกฝังให้เด็กมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาสิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตน มีความอดทน มีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ยิ้มแย้มแจ่มใส มีการจัดกิจกรรมทางด้านศิลปะ ดนตรี ให้นักเรียนได้วาดภาพ ระบายสี เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ ให้เด็กได้ทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ทั้งในและนอกห้องเรียน และยังส่งเข้าร่วมแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมทุกปี โดยครูได้ดำเนินการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมีการจัดกิจกรรมร้อง เล่น เต้น อ่าน ให้เด็กได้แสดงออกตามศักยภาพของตน โรงเรียนได้ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ โดยการเข้าร่วมโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย ทำให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติการทดลอง การสังเกต ความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแก้ปัญหา มีการจัดกิจกรรมโครงงานเพื่อการเรียนรู้ โดยส่งเสริมให้เด็กมีความสนใจเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว กล้าซักถาม มีการจัดทำโครงการหนูน้อยรักการอ่าน เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีทักษะทางภาษา มีนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมให้เด็กได้เสนอผลงานด้วยภาษาที่เหมาะสมตามวัย จัดกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนเพื่อให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก เรียนรู้นอกสถานที่ แก้ปัญหาในสถานการณ์จริง

ผลการดำเนินงาน  

เด็กมีร่างกายเจริญเติบโตตามวัย มีน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ มีทักษะการเคลื่อนไหวตามวัย สามารถดูแลสุขภาพและหลีกเลี่ยงต่อสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งเสพติด มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ร่าเริง แจ่มใส สนุกสนาน ร่วมกิจกรรมอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีสติปัญญาเรียนรู้ได้ตามกิจกรรมประจำวันอย่างดี

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1zVwzp4iSs-uUTThASqgojbeY1ku-C_Yl/view?usp=sharing
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

      การจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนบ้านต้นกระบกได้มีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจของสถานศึกษาไว้อย่างชัดเจน มีองค์ประกอบที่สำคัญเพื่อที่จะขับเคลื่อนการศึกษาระดับปฐมวัยได้แก่  การพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ได้มีการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยให้สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่นโดยพิจารณาจากวัยของเด็ก ประสบการณ์ของเด็ก โดยเป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาเด็กทุกด้าน  ทั้งด้านร่างกาย  อารมณ์จิตใจ สังคม  และสติปัญญา เพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้ มีการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีศักยภาพ โดยให้ผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายได้มีบทบาทในการมีส่วนร่วมการจัดการศึกษา  โดยให้มีการประสานความร่วมมือร่วมกันพัฒนาผู้เรียนต่อไป

           โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพให้มีอุปกรณ์  ของเล่น ของใช้  เครื่องนอน  เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พอเพียงกับเด็ก  โดยจัดให้เหมาะสม  สะอาด ปลอดภัย ให้มีมุมหนังสือที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก  ให้เพียงพอและเหมาะสมกับวัย  จัดให้มีเครื่องเล่นสนาม  เครื่องเล่นน้ำเล่นทราย  ที่เหมาะสมปลอดภัย  จัดให้มีพื้นที่สำหรับแปรงฟัน  ล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย  ห้องน้ำห้องส้วม  พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นและเหมาะสมกับเด็ก มีหลักสูตรปฐมวัยที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาเป็นรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเตรียมความพร้อม  เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง  สอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว  ชุมชน และท้องถิ่นจัดครูที่เหมาะสมกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือมีครูประจำการที่จบการศึกษาปฐมวัย ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องพัฒนาคุณภาพครูด้านการศึกษาปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งส่งผลให้ครูปฐมวัยทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย มีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล  มีประสบการณ์ในการออกแบบการจัดกิจกรรม  ทักษะการสังเกต และการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและผู้ปกครองมีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เรียน มีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา  โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง

 

ผลการดำเนินงาน  

- มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น 

- การจัดสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ ครูได้รับการพัฒนาด้าน
             วิชาชีพ
ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1ZLIyZsFSD1XPTYhLA-IQ2WG0R9NpoBKf/view?usp=sharing
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

            จัดการศึกษาปฐมวัยมุ่งเน้นความสำคัญของการพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน  ทั้งทางด้านร่างกาย   อารมณ์จิตใจ   สังคม และสติปัญญา  มีความรู้คู่คุณธรรม  จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  เพื่อสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุขภายใต้คำว่า  เก่ง ดี   มีสุข จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย  อารมณ์จิตใจ   สังคม และสติปัญญา ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัยของโรงเรียน

            มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัยจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมความสนใจให้แก่ผู้เรียน  ชั้นเรียนมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น  ความเห็นอกเห็นใจ   มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน ซึ่งเป็นแรงจูงใจภายนอกที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรักการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียน  และปลูกฝังคุณธรรม  จริยธรรม ให้แก่เด็กนักเรียน ห้องเรียนมีบรรยากาศ  แจ่มใส กว้างขวางพอเหมาะ

            มีมุมส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้  มีการตกแต่งห้องเรียนให้สดใส และมีสื่อการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการจัดประสบการณ์การเรียนการสอน การประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัย จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้  และการจัดกิจวัตรประจำวัน ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย เช่น การสังเกต  การสอบถาม  การสำรวจ และการวิเคราะห์ผลพัฒนาการของเด็ก โดยให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วม เพื่อได้นำผลการประเมินไปพัฒนาศักยภาพของเด็กและพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาครูต่อไป

            มีการจัดทำแผนการจัดประสบการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา  โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม  พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงาน  

- เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างสมดุล

- เด็กเรียนรู้จากการเล่นและลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง

 - มีการประเมินด้วยวิธีหลากหลาย

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1uG9oaGtAwW_bUuZEZuC61zFix6PFzZaU/view?usp=sharing
ภาพรวมของสถานศึกษา
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 

ด้านคุณภาพเด็ก
จุดเด่น
โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีกระบวนการพัฒนาเด็กที่หลากหลาย ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ โรงเรียนจัดให้เด็กได้รับประทานอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ ปริมาณเหมาะสมตามวัย มีการควบคุมดูแลให้เด็กดื่มนมเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ มีการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ภาคเรียนละ 2 ครั้ง มีกิจกรรมออกกำลังกายทุกวัน มีการจัดบอร์ดให้ความรู้แก่เด็กเกี่ยวกับโรคติดต่อในชุมชน โรคติดต่อจากการอยู่ร่วมกัน อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน มีการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด และได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลนายายอามในการดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามัยของเด็ก 

ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ
จุดเด่น

โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพให้มีอุปกรณ์  ของเล่น ของใช้  เครื่องนอน  เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พอเพียงกับเด็ก  โดยจัดให้เหมาะสม  สะอาด ปลอดภัย ให้มีมุมหนังสือที่จำเป็นต่อพัฒนาการของเด็ก  ให้เพียงพอและเหมาะสมกับวัย  จัดให้มีเครื่องเล่นสนาม  เครื่องเล่นน้ำเล่นทราย  ที่เหมาะสมปลอดภัย  จัดให้มีพื้นที่สำหรับแปรงฟัน  ล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย  ห้องน้ำห้องส้วม  พร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็นและเหมาะสมกับเด็ก มีหลักสูตรปฐมวัยที่ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาเป็นรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเตรียมความพร้อม เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง  สอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว  ชุมชน และท้องถิ่นจัดครูที่เหมาะสมกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ คือมีครูประจำการที่จบการศึกษาปฐมวัย ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่องพัฒนาคุณภาพครูด้านการศึกษาปฐมวัยอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งส่งผลให้ครูปฐมวัยทุกคนล้วนมีความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย  มีทักษะในการจัดประสบการณ์และการประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล  มีประสบการณ์ในการออกแบบการจัดกิจกรรม  ทักษะการสังเกต และการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและผู้ปกครองมีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เรียน มีการประเมินผลตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา ติดตามผลการดำเนินงานและจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี มีการนำผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา  โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม 

ด้านการจัดประสบการณ์เน้นเด็กเป็นสำคัญ

จุดเด่น

จัดการศึกษาปฐมวัยมุ่งเน้นความสำคัญของการพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน  ทั้งทางด้านร่างกาย   อารมณ์จิตใจ   สังคม และสติปัญญา  มีความรู้คู่คุณธรรม  จริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต ซึ่งเป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  เพื่อสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นสุขภายใต้คำว่า  เก่ง ดี   มีสุข จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการการเรียนรู้ แบบเรียนผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กได้ประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย  อารมณ์จิตใจ   สังคม และสติปัญญา ซึ่งสามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัยของโรงเรียน

 



ผลการดำเนินงาน
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
ด้านคุณภาพเด็ก
จุดเด่น
            เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ เด็กเคลื่อนไหวคล่องแคล่วและทรงตัวดี สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ หลีกเลี่ยงการเสี่ยงต่อโรค และสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายได้
      เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ ร่าเริงแจ่มใส แสดงออกอารมณ์ได้เหมาะสม รู้จักรอคอย ยอมรับ พอใจในความสามารถของตนเองและผู้อื่น มีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี มีความมั่นใจ กล้าพูด กล้าแสดงออก ช่วยแบ่งปัน เคารพสิทธิ รู้หน้าที่รับผิดชอบ อดทนอดกลั้น ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม ชื่นชมและมีความสุขกับศิลปะดนตรี และการเคลื่อนไหว
            เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ มีวินัยในตนเอง   เด็กรู้จักออมและพอเพียง มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งในและนอกห้องเรียน มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ปราศจากความรุนแรง
            เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหา เด็กสนทนาโต้ตอบ และเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจได้ เด็กตั้งคำถามในสิ่งที่สงสัย และพยายามค้นหาคำตอบได้ อ่านนิทาน และเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้ เหมาะสมกับวัย สร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการได้
 
ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ
จุดเด่น
.สถานศึกษามีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน มีหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่น สอดคล้องกับหลักสูตรปฐมวัย จัดกิจกรรมให้กับเด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและลงมือปฏิบัติ ทำให้เด็กได้เรียนรู้อย่างมีความสุข
.มีครูจบการศึกษาปฐมวัย สถานศึกษาจัดครูที่จบการศึกษาปฐมวัย ทำให้การจัดการศึกษาปฐมวัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
.ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ ครูมีความสามารถในการวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษาและมีทักษะในการจัดประสบการณ์และประเมินพัฒนาการเด็ก โดยการสังเกตและประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล ครู มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กและครอบครัวมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และวางตัวเหมาะสม
. จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ ครูจัดสภาพการเรียนรู้ให้เด็กได้เรียนรู้รายบุคคลและรายกลุ่ม เพื่อสนองตอบความต้องการ ความสนใจ และความสามารถ และการทำงานที่ร่วมมือและช่วยเหลือ แบ่งปันกัน ครูส่งเสริมกิจกรรมการเรียนปนเล่น เล่นแบบร่วมมือร่วมใจ ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น และมีปฏิสัมพันธ์กัน ได้ช่วยกันคิดวางแผน ปฏิบัติ แก้ปัญหาและทบทวนสิ่งที่ทำร่วมกัน
. .ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์สำหรับครู
 
 
ด้านการจัดประสบการณ์เน้นเด็กเป็นสำคัญ
จุดเด่น
๑.        จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลศักยภาพ โดย ครูวิเคราะห์เป็นรายบุคคล มีการจัดทำแผนประสบการณ์จากการวิเคราะห์มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง ๔ ด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา
๒.        สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัติอย่างมีความสุข โดยจัดประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิม ทำให้เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระ ตามความต้องการ ความสนใจ และความสามารถ ซึ่งกิจกรรมที่หลากหลายสามารถสนองตอบการเรียนรู้ของเด็กรายบุคคล
๓.        จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อ และเทคโนโลยี ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะกับช่วงอายุ ระยะความสนใจ และการเรียนรู้ของเด็ก
๔. ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพเกณฑ์ตามสภาพจริง และนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก ครูมีการวิเคราะห์ผลและประเมินพัฒนาการเด็กโดยผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง มีการพัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
 

 

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/14F-1zu1ZLQf7-wi5jblc_iKLZhRe27eC/view?usp=sharing
 2.2.2 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกำหนดโครงการ/ กิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนหลากหลายวิธีการ เช่น โครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อส่งเสริมการอ่าน โครงการยกระดับผลสัมทธิ์ทางการเรียน ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้หลักในกลุ่มสาระการการเรียนรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศึกษา จัดกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันพ่อ วันแม่ วันไหว้ครู วันภาษาไทย วันสุนทรภู่ วันคริสต์มาส กิจกรรม วันสำคัญทางศาสนา ส่งเสริมให้นักเรียนทดสอบความรู้ความสามารถด้านการอ่าน การเขียน และการคิดคำนวณ ได้แก่ การประเมินผลการอ่าน (Reading Test: RT) การทดสอบระดับชาติ (Nation Test: NT) เพื่อวัดความสามารถพื้นฐานชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary Nation Education Test : O-NET) เพื่อวัดและประเมินผลทางการเรียน ประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล (Programme for International Student Assessment : PISA) วัดและประเมินผลผู้เรียนโดยใช้ข้อสอบกลาง ประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนให้มีความพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข

ผลการดำเนินงาน  

๑.๑ สถานศึกษาได้ตั้งคณะกรรมการประเมินภายในของสถานศึกษาขึ้นตามมาตรฐานการศึกษา และรวบรวมข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนด้านต่าง ๆ ตามแผนการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคน (จำนวน ๑๓๗ คน) ของสถานศึกษา แล้วนำมาประเมินตามเกณฑ์ของสถานศึกษา พบว่า

๑. การประเมินด้านการอ่าน มีผลการทดสอบการอ่านในระดับดีขึ้นไปคิดเป็น ร้อยละ ๙๖.๓๐ (สูงกว่า ค่าเป้าหมายร้อยละ ๗๐.๐๐)

๒. การประเมินด้านการเขียน มีผลการทดสอบการเขียนในระดับดีขึ้นไปคิดเป็น ร้อยละ ๙๔.๔๔ (สูงกว่า ค่าเป้าหมายร้อยละ ๗๐.๐๐)

๓. การประเมินด้านการสื่อสาร มีผลการประเมินการสื่อสารในระดับดีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ ๘๔.๐๗ (สูงกว่า ค่าเป้าหมายร้อยละ ๗๐.๐๐)

๔. การประเมินความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลการประเมิน ในระดับดีขึ้นไปคิดเป็น ร้อยละ ๗๕.๔๐ (สูงกว่า ค่าเป้าหมายร้อยละ ๗๐.๐๐)

๕. ผลการประเมินด้านการคิดคำนวณ มีผลการประเมินในระดับดีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ ๗๔.๙๗ (สูงกว่า ค่าเป้าหมายร้อยละ ๗๐.๐๐)

๖. ผลการประเมินด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน โดยเฉลี่ยทุกคน ทุกระดับชั้นพบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สถานศึกษาตั้งค่าเป้าหมายผู้เรียนร้อยละ ๖๐ มีผลการเรียนเฉลี่ยตั้งแต่ ๑.๑๕ ขึ้นไป ส่วนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สถานศึกษาตั้งค่าเป้าหมายผู้เรียนร้อยละ ๖๐ มีผลการเรียนเฉลี่ยตั้งแต่ ๒.๐๐ ขึ้นไป ส่วนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาพลศึกษาและกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ สถานศึกษาตั้งค่าเป้าหมายผู้เรียนร้อยละ ๖๐ มีผลการเรียนเฉลี่ยตั้งแต่ ๓.๐๐ ขึ้นไป โดยทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงกว่าค่าเป้าหมาย

๗. ส่วนผลการประเมินระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)

ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีผลการทดสอบเทียบปีการศึกษา ๒๕๖๒ และปีการศึกษา ๒๕๖๓ พบว่ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีผลการทดสอบเพิ่มขึ้นร้อยละ ๘.๑๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพิ่มขึ้น ๒.๔๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๔๕ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ ๗.๙๒

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีผลการทดสอบเทียบปีการศึกษา ๒๕๖๒ และ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ พบว่ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีผลการทดสอบเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๙๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ลดลงร้อยละ ๔.๘๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีลดลงร้อยละ ๑.๔๖ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒.๘๓

๘. จากผลการประเมินการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความรู้ทักษะพื้นฐานตามหลักสูตรและจากการประเมินในสถิติ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีจำนวน ร้อยละ ๘๓.๓๓ ที่เรียนต่อด้านอาชีพ และจากการประเมินเจตคติในการทำงานกลุ่มที่เน้นอาชีพ พบว่านักเรียน ร้อยละ ๑๐๐ มีผลการประเมินตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป

 

 

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1OhC2FoYODyqqZ6Rm7eNegDMaB8u9Vv8l/view?usp=sharing
1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

ผลการประเมินด้านคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีงามตามที่สถานศึกษากำหนดนั้น ผู้เรียนผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทุกคุณลักษณะในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ ๙๙.๒๕ ผู้เรียนมากกว่าร้อยละ ๘๐.๐๐ มีความภูมิใจในท้องถิ่น และความเป็นไทย โดยประเมินจากการการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่สถานศึกษาจัดขึ้น ผู้เรียนมากกว่าร้อยละ ๘๐ มีการยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย โดยประเมินจากแบบประเมินพฤติกรรมผู้เรียน และผู้เรียนร้อยละ ๘๕.๐๙ มีสุขภาวะทางร่างกาย จิตใจ สังคม ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานของกรมอนามัย

ผลการดำเนินงาน  

๑. พัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นระบบมีการใช้กระบวนการวิจัยในการดำเนินงาน และมีการสร้างเวทีส่งเสริมให้ผู้เรียนเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ และแสดงผลงานอย่างต่อเนื่อง

๒. ให้ผู้เรียนเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดต่าง ๆ มากขึ้นโดยมีการวางแผนการจัดการเรียนรู้ใน ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้และมีการประเมินความสามารถในการคิดของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ

๓. ดำเนินงานยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนอย่างเป็นระบบตั้งแต่ระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

 

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1OhC2FoYODyqqZ6Rm7eNegDMaB8u9Vv8l/view?usp=sharing
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มีคุณภาพระดับ  ยอดเยี่ยม
กระบวนการพัฒนา  

โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพโดยดำเนินการกำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ และพันธกิจไว้อย่างชัดเจนสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาตินโยบายของรัฐบาลและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยได้ประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อการดำเนินงานจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา และแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓ผ่านการเห็นชอบโดยคณะกรรมการสถานศึกษาทำให้โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพส่งผลต่อคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาโดยความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีการนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโรงเรียนบ้านต้นกระบกมีการดำเนินงานพัฒนาวิชาการผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงกับชีวิตจริงพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพตรงตามความต้องการของครูและสถานศึกษาจัดให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนางาน จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และมีความปลอดภัยจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสภาพของโรงเรียนแต่ยังไม่มีกระบวนการวิจัยและพัฒนาระบบการบริหารที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ


ผลการดำเนินงาน  

๑. โรงเรียนบ้านต้นกระบกบริหารจัดการโดยมีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาโดยยึดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ โรงเรียนบ้านต้นกระบกมีการพัฒนาหลักสูตร ปีละ ๑ ครั้ง มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เน้นคุณภาพผู้เรียน จัดทำรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมลูกเสือ แนะแนว ชุมนุม ดำเนินการจัดการศึกษาสู่อาชีพ รายวิชางานช่างสู่อาชีพ การจับจีบผ้า การตัดผม การทำเบเกอรี่ การทำขนมไทย ปลูกผักสวนครัว การทำอาหารไทย สถานศึกษาได้ทำบันทึกข้อตกลง(MOU) กับวิทยาลัยการอาชีพนายายอามเมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศเกียรติบัตรของกระทรวงศึกษาธิการ สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้นโดยมีครูจากวิทยาลัยการอาชีพนายายอามมาสอนที่ โรงเรียนบ้านต้นกระบก พร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าร่วมแข่งขันทักษะความสามารถด้านวิชาการและด้านกีฬาตามความถนัดและความสามารถของผู้เรียน

๒. โรงเรียนบ้านต้นกระบกส่งเสริม สนับสนุนให้ครูทุกคนได้รับการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ และจัดให้มีชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) มาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของผู้เรียนจัดกิจกรรมนิเทศการสอนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และเพื่อนครูช่วยเพื่อนครูแบบกัลยาณมิตรรวมทั้งส่งเสริมการอบรมออนไลน์เพื่อพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ที่ยั่งยืนของครู

๓. โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดให้มีโครงการปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่และ สิ่งแวดล้อมมีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้มีสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น ปลอดภัย จัดให้มีอาคารเรียนอาคารประกอบอย่างเพียงพอ จัดให้มีห้องสมุดการเรียนรู้ ห้องปฏิบัติการเพียงพอ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และแหล่งสืบค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่นักเรียนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ง่าย

๔. โรงเรียนบ้านต้นกระบกจัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม โดยมีข้อมูลสารสนเทศมีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ มีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ มีการจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและจัดการเรียนรู้ เช่น มีคอมพิวเตอร์สำหรับห้องปฏิบัติการ และติดตั้ง Smart TV สำหรับห้องเรียนเป็นบางห้องเรียน ติดตั้งระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพื่อกระจายสัญญาณ WIFI ให้ครอบคลุมทั่วถึงทั้งบริเวณสถานศึกษา เพื่อให้ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนสามารถเข้าถึงระบบสารสนเทศของสถานศึกษา ได้ง่ายขึ้น สะดวกต่อการติดต่อประสานงานและอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ได้มากขึ้น และนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด ๑๙

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1OhC2FoYODyqqZ6Rm7eNegDMaB8u9Vv8l/view?usp=sharing
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

สถานศึกษาจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริงตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด ของหลักสูตรสถานศึกษา มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปจัดกิจกรรมได้จริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ ครูมีนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้และเผยแพร่นวัตกรรมใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้รวมทั้งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เอื้อต่อการเรียนรู้โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้ ด้วยตนเองมีกระบวนการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ ใช้เครื่องมือและวิธีการวัด และประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ ให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนและนำผลมาพัฒนา ผู้เรียน มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก เด็กรักที่จะเรียนรู้ และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข จัดทำชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้

ผลการดำเนินงาน  

๑. ครูทุกคนมีการวางแผนและบริหารจัดการชั้นเรียนที่เป็นระบบ จัดทำเอกสาร ในชั้นเรียนอย่างถูกต้องและครบถ้วนทุกรายวิชาทุกชั้นปี มีการวิเคราะห์ข้อมูลผู้เรียนรายบุคคล และนำผลไปออกแบบการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความสามารถ ความต้องการและสภาพบริบทของผู้เรียน มีการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยมีการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองผู้เรียนในหลายช่องทาง ได้แก่ ทางโทรศัพท์ ทาง Facebook : โรงเรียนบ้านต้นกระบก นายายอาม การจัดตั้งกลุ่มLine ทุกชั้นเรียน และการประชุมผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ครูทุกคนต้องดำเนินการเยี่ยมบ้านผู้เรียนในความรับผิดชอบปีการศึกษาละ ๑ ครั้งเป็นอย่างน้อย แล้วจัดทำข้อมูลพื้นฐานของผู้เรียนเป็นรายบุคคล

๒. ครูทุกคนมีการนำแผนการสอนไปใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น การใช้เทคโนโลยี AR , Application Zoom, Jitsi และ Line รวมทั้งการเรียนรู้ในห้องปฏิบัติการต่างๆ

๓. ครูการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ มากกว่าเนื้อหาวิชา โดยร่วมกันวิเคราะห์หลักสูตร จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษาโดยจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงานการสอนแบบสะเต็มศึกษา (STEM ) การสอนแบบทักษะปฏิบัติจริงเป็นต้น และครูร้อยละ ๑๐๐.๐๐ มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน

๔. ครูร้อยละ ๑๐๐.๐๐ สามารถผลิตและใช้สื่อการสอนที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระ การสอน โดยสื่อการสอนที่ใช้ประกอบด้วย ใบงาน ใบความรู้ แบบฝึกทักษะ บัตรภาพ บัตรคำ วิดีโอ และ เกมต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ครูของสถานศึกษาทุกคนจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ครูมีการมอบหมายงานให้ผู้เรียนทำการศึกษาค้นคว้าจากศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ สถานศึกษาเช่น ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ป้ายนิเทศหน้าอาคาร หรือ หน้าชั้นเรียน แผ่นป้ายความรู้ เป็นต้น

๕. ครูทุกคนรวมกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเกี่ยวกับปัญหา ที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่รับผิดชอบ พัฒนาสื่อ/นวัตกรรมและแนวทางการแก้ปัญหา จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้สังเกตการสอนและสะท้อนผลการสังเกตการสอนร่วมกันในวันจันทร์และวันพุธ วันละ ๑ ชั่วโมง นอกจากนี้ครูทุกคนได้รับการพัฒนาความรู้ที่ตรงกับความต้องการของตนเองและสถานศึกษา และนำความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนต่อไป

๖. ครูนำผลการประเมินมาพัฒนาสื่อนวัตกรรมและแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาผู้เรียน เช่น การวิจัยในชั้นเรียนอย่างน้อยปีการศึกษาละ ๒ เรื่อง

๗. ครูทุกคนมีการออกแบบการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเป็นระบบใช้เครื่องมือวัดและประเมินผลที่เหมาะสมกับการประเมินและให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนจัดทำแฟ้มสะสมงาน มีการแจ้งผลการประเมินให้ผู้ปกครองทราบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้

๘. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอน

๙. ครูทุกคนออกแบบแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล Individualized Education Program (IEP) สำรับผู้เรียนที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและหลักสูตรสถานศึกษา นำแผนมาใช้จัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://drive.google.com/file/d/1OhC2FoYODyqqZ6Rm7eNegDMaB8u9Vv8l/view?usp=sharing
ภาพรวมของสถานศึกษา
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
ผลการดำเนินงาน
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 
 2.3 ภาคผนวก
 https://drive.google.com/file/d/1JOaRRS8NtKzMqJg8wYYHWCB107ANNbTO/view?usp=sharing