รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา
(Self - Assessment Report : SAR)
ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า

 ส่วนที่ 1 บทสรุปผู้บริหาร
 1.1 ภาพรวมของคุณภาพการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา

บทสรุปสำหรับผู้บริหารและประเมินตนเองของสถานศึกษา

          โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่จัดการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีการบริหารจัดการการศึกษาในเขตพื้นที่บริการ 6 หมู่ ได้แก่ หมู่ที่ 2,4,6,9,10 และ 13 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี

          สภาพชุมชน โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตเทศบาล รอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีคลองวังโตนดเป็นแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร พื้นดินอุดมสมบูรณ์ดี ภูมิอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุก อาชีพของประชากร ทำสวนผลไม้ สวนพริกไทย สวนยางพารา และในชุมชนเมืองค้าขาย การอาศัยของประชากรจะกระจายเต็มพื้นที่ตามสภาพภูมิประเทศ ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นพวกย้ายถิ่นมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อมารับจ้างประกอบอาชีพในชุมชนนี้ โดยจะรับจ้างทำสวนผลไม้ รับจ้างกรีดยาง รับจ้างเก็บพริกไทย ครอบครัวยากจน     ย้ายถิ่นที่ทำกินบ่อย มีรายได้ประเพณีวัฒนธรรมแตกต่างกับท้องที่ บุตรหลานเป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา บางครั้งเรียนไม่ต่อเนื่องเพราะต้องย้ายติดตามผู้ปกครองไปรับจ้างทำงานในถิ่นอื่น ชุมชนมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนเป็นอย่างดี ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ

           การศึกษา ผู้ปกครองส่วนใหญ่ จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ประกอบอาชีพทำสวน และรับจ้าง รายได้โดยเฉลี่ย ต่อครอบครัว ต่อปีประมาณ 100,000 บาท 

โอกาสและข้อจำกัดของโรงเรียน

           โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลหนองคล้า หมู่ 3 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี การมาโรงเรียนของนักเรียนโดยรถรับจ้างประจำ รถโดยสารประจำทาง และผู้ปกครองมาส่ง ผู้ปกครองส่วนใหญ่ฐานะยากจนมีอาชีพรับจ้างทำสวน เก็บพริกไทย ทำให้ความเป็นอยู่ไม่ดีพอ ย้ายที่อยู่บ่อย นักเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ยากจน ทำให้จำนวนนักเรียนของโรงเรียนไม่แน่นอน และผลการเรียนของนักเรียนไม่ดีเท่าที่ควร ประชาชนที่เป็นเจ้าของสวนเองก็มักจะเอาบุตรหลานของตนเองไปเข้าเรียนในตัวจังหวัด เนื่องจากการคมนาคมสะดวก แนวโน้มทางสังคมของชุมชนเป็นแบบสังคมกึ่งเมืองและชนบท

            มีข้าราชการครู 44 คน ครูอัตราจ้าง 5 คน พี่เลี้ยงเด็กพิการ 2 คน นักการภารโรง 2 คน นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา จำนวน 488 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 294 คน มีผลการทดสอบระดับชาติของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ต่ำกว่าระดับชาติ จำนวน 3 สาระการเรียนรู้ ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ และสูงกว่าระดับประเทศ จำนวน 1 สาระการเรียนรู้ ได้แก่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไม่มีการทดสอบเนื่องจากในปีการศึกษา 2563 นี้ เป็นการทดสอบภาคสมัครใจ ภายใต้สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ในปีงบประมาณ 2563 มีงบประมาณในการบริหารจัดการศึกษาในภาพรวมเป็นจำนวนเงิน 4,911,392 บาท ในปี พ.ศ. 2553 ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามจากสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษารอบสาม (พ.ศ. 2553)

            ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนได้ดำเนินการประเมินคุณภาพภายในตามกรอบกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2563 นโยบายปฏิรูประบบการประเมินและการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาและประกาศมาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากผลการประเมินตนเอง ตามาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งปรากฏผลการประเมินตนเองดังนี้ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาพรวมมีระดับคุณภาพ ดี

ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

มาตรฐานการศึกษา ระดับดี

มาตรฐานการศึกษา

ระดับคุณภาพ

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน

พอใช้

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ

ดี

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ดี


มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน

ระดับคุณภาพ : พอใช้

1. กระบวนการพัฒนา

            สถานศึกษาได้จัดกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายให้เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข ครูจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยมีการจัดการเรียนรู้ทั้งรูปแบบการระดมสมอง แบบลงมือปฏิบัติจริง แบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบใช้กระบวนการคิด กระบวนการใช้ปัญหาเป็นหลัก และเน้นเรื่องการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนทุกคนอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พัฒนาครูทุกคนให้มีความรู้ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง Active Learning ครูผู้สอนในระดับ    ชั้นเดียวกันร่วมกันกำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลแบบบูรณาการ ครูเน้นการใช้คำถามเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของผู้เรียน และใช้สื่อเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้และแหล่งสืบค้นข้อมูลในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ ห้องสมุด 3 ดี ห้องศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (PEER) ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องคณิตศาสตร์ ห้องสภานักเรียน ศูนย์เด็กปฐมวัย ศูนย์ต้นแบบการเรียนรวม ห้องเด็กพิเศษ

            แหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดแก่ แปลงเกษตร นอกจากนี้ สถานศึกษาได้มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน พัฒนาคุณธรรมให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีความพอเพียง เน้นให้ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และมีจิตสาธารณะ มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมกันวางแผนการจัดการเรียนการสอน มีการเรียนรู้สู่โลกกว้าง การศึกษากับภูมิปัญญาในชุมชนรอบๆ สถานศึกษา จัดกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ ฟัง เล่นดนตรีไทยและสากล กิจกรรมทำความสะอาดเขตรับผิดชอบ ให้ความรู้เรื่องการกำจัดลูกน้ำ ยุงลาย การประหยัดพลังงานของชาติ การใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า ส่งเสริมการออกกำลังกาย เช่น โครงการกีฬาพัฒนากาย กีฬาวอลเลย์บอล กีฬาเปตอง กีฬายูยิตสู ส่งเสริมงานอาชีพ เช่น งานเชื่อมเหล็กดัดหน้าต่าง ประตู เหล็กปิดรางน้ำ ช่างตัดผม การตัดเย็บเสื้อผ้า การทำเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร น้ำดื่มสะอาด (น้ำกรองที่ได้มาตรฐาน) เป็นต้น

2. ผลการดำเนินงาน

            ด้านการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ผู้เรียนสามารถอ่านออกและอ่านคล่อง ตามมาตรฐานการอ่านในแต่ละระดับชั้น สามารถคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดคำนวณ เขียนสื่อสารได้ดี สืบค้นข้อมูลหรือแสวงหาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ รู้จักการวางแผน มีความรู้ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีมีวิถีชีวิตประชาธิปไตยและดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กล้าแสดงออก และแสดงความคิดเห็น รวมถึงมีความเข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างวัยและระหว่างบุคคล ส่งผลให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตสาธารณะ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี รู้เท่าทันสื่อเทคโนโลยีและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งมีความตระหนักถึงโทษและพิษภัยของสิ่งเสพติด สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งไม่สามารถจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ

ระดับคุณภาพ : ดี

1. กระบวนการพัฒนา

           โรงเรียนได้ประชุมดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมา โดยการศึกษาข้อมูลสารสนเทศจากผลการนิเทศ ติดตาม ประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา และจัดประชุมระดมความคิดเห็น จากบุคลากรในสถานศึกษาเพื่อวางแผนและร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ปรับวิสัยทัศน์ กำหนดพันธกิจ กลยุทธ์ ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และหาแนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพนักเรียนให้มีคุณภาพและมาตรฐานอยู่ในระดับที่สูงขึ้น โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ตามความต้องการพัฒนานโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรียน และการปฏิรูปการศึกษาในระดับชาติ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาตามแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และสรุปผลการดำเนินงาน

2. ผลการดำเนินงาน

            2.1 สถานศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจสอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการพัฒนา ของสถานศึกษา นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น และสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปตามแผนการศึกษาชาติ

            2.2 แผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีสอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญตามมาตรฐานตำแหน่งข้อมูลสารสนเทศมีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ และมีการจัดจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่กระตุ้นผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้

            2.3 สถานศึกษามีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาและร่วมรับผิดชอบ

            2.4 ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา มีส่วนร่วมในการร่วมวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และ         รับทราบ รับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา

            2.5 สถานศึกษามีการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษาที่เหมาะสมเป็นระบบและต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

            2.6 สถานศึกษามีรูปแบบการบริหารและการจัดการเชิงระบบ โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมยึดหลักธรรมาภิบาลและแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา

            2.7 สถานศึกษามีการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่งผลให้สถานศึกษามีสื่อการเรียนการสอนโดยการผลิตสื่อการเรียนการสอนใช้เองอย่างน้อยเดือนละ 2 ชิ้น และแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ระดับคุณภาพ : ดี

1. กระบวนการพัฒนา

              โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยการดำเนินงาน/กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ การประชุมปฏิบัติการปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติ (Active learning) ให้ผู้เรียนผ่านกระบวนการคิด ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและคงทน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำผลที่ได้มาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ครูมีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบมีขั้นตอน โดยใช้เครื่องมือและวิธีวัด และประเมินผลที่เหมาะกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ ให้ข้อมูลย้อนหลังแก่ผู้เรียนและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญหาท้องถิ่น ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก เด็กรักเด็ก เพื่อให้เด็กรักการเรียนรู้และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข ครูร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำข้อมูลมาร่วมพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้และสอนตามแผน ครูใช้สื่อการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกทั้งมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้พื้นฐานและฝึกทักษะงานอาชีพให้นักเรียน เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพพื้นฐานได้

2. ผลการดำเนินงาน

              ประเด็นภาพความสำเร็จด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเอง ได้แก่หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมชมรม ให้นักเรียนเลือกตามความถนัดและความสนใจผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง การบันทึกการใช้สื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ เอกสารการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียนมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวกโดยครูมีวิจัยชั้นเรียนและนำผลไปแก้ไขปัญหาจริง ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลย้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ นักเรียนนำเสนอผลงานจากการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน จากกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ และครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับสถานศึกษาในเครือข่าย และเผยแพร่ผลงานสู่สายตาประชาชน ตามบริบทและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19


ผลการประเมินมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย

มาตรฐานการศึกษา

ระดับคุณภาพ

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็๋ก

ดีเลิศ

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ

ดีเลิศ

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

ดีเลิศ

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็๋ก         

             โรงเรียนได้ดำเนินการพัฒนาการเด็กโดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการตามหน่วยการเรียนรู้โดยยึดเด็กเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมตามตารางประจำวันเพื่อให้เด็กมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีพัฒนาการตามวัย มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้โดยเน้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลของตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บ การปฏิบัติสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน จัดให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ถูกสุขลักษณะ ส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกทางอารมณ์ จิตใจและความรู้สึกได้เหมาะสมกับวัย โดยดำเนินโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจของเด็กอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง อีกทั้งส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของสังคมมีวินัยในตนเอง มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ โดยมีนโยบายในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์และปลูกฝังเรื่องค่านิยม 12ประการให้แก่เด็ก ผ่านกิจกรรมประจำวัน มีความพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กรู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน ภายนอกห้องเรียนและบริเวณในโรงเรียน ปลูกฝังให้นักเรียนเห็นคุณค่าความสำคัญของศาสนาที่ตนนับถือ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้โดยเน้นให้ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการที่ส่งเสริมทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดพื้นฐาน มีความคิดรวบยอด คิดเชิงเหตุผล และรู้จักแก้ปัญหา

    ซึ่งส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของตนเอง มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ  มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีพฤติกรรมแสดงออกด้านสังคมได้อย่างเหมาะสมกับวัย รู้จักช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันมีวินัยในตนเอง ประหยัดและพอเพียง มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนหรือโรงเรียน มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหาความรู้ได้ 

มาตรฐานที่2กระบวนการบริหารและการจัดการ

          โรงเรียนมีกระบวนการจัดการบริหารและการจัดการหลักสูตร โดยประชุมวางแผนในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย กำหนดแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้บรรลุมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์และครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านตามที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนด มีการศึกษาหลักสูตรแกนกลางปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดหัวข้อในการบูรณาการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะต่าง ๆ เน้นการจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อม เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตามศักยภาพมีการประเมินผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยแต่งตั้งครูผู้รับผิดชอบการสอนและเป็นครูประจำชั้นในแต่ละชั้น ซึ่งคำนึงถึงความเหมาะสมและตรงตามวิชาเอกของคุณครู จัดครูให้เพียงพอและเหมาะสมกับภารกิจ ส่งเสริมและพัฒนาครู ในรูปแบบต่างๆ ทั้งอบรม PLC เป็นต้น พร้อมทั้งจัดหาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู 

   ทำให้โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง4 ด้าน มีครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ มีความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญด้วยรูปแบบที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพครบทุกชั้นเรียน มีสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่มีความปลอดภัย มีสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู

มาตรฐานที่3การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ

           โรงเรียนส่งเสริมให้ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงและพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญาตลอดจนความรู้ความสามารถเต็มศักยภาพตามหลักสูตรกำหนดบูรณาการผ่านการเรียนรู้6 กิจกรรมหลัก อีกทั้งจัดบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีการการประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก  โดยครูเก็บร่องรอยหลักฐานการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล มีการประเมินตามสภาพจริงและจัดการประเมินอย่างเป็นระบบด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย

             ผลจากการดำเนินงานด้านการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ส่งผลให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง โรงเรียนมีบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก เด็กแต่ละคนได้รับการประเมินพัฒนาการเป็นรายบุคคลตามสภาพจริง ผู้ปกครองได้รับทราบถึงพัฒนาการของบุตรหลานของตนเองด้วย

   

 1.2 หลักฐานสนับสนุนผลการประเมินตนเอง

หลักฐานสนับสนุนผลการประเมินตนเอง

ขั้นปฐมวัย

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก

   โรงเรียนมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเองในมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็กได้แก่

      1.โครงการการจัดการศึกษาปฐมวัย

      2. โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย

      3. กิจกรรมสะเต็ม

      4.กิจกรรมวิทยาการคำนวณ

      5. กิจกรรมไฮสโคป

      6.จัดทำแผนการจัดประสบการณ์ในทุกชั้นเรียน

      7. จัดทำวิจัยในชั้นเรียน

      8. PLC

มาตรฐานที่ กระบวนการบริหารและการจัดการ

   โรงเรียนมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเองในมาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ ได้แก่

      1. หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้าฯ

      2. รายงานการใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

      3. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามหน่วยการเรียนรู้

      4. แผนปฏิบัติการระดับปฐมวัยประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2563

      5. คำสั่งการปฏิบัติหน้าที่ครูประจำชั้น

      6. คำสั่งแต่งตั้งการปฏิบัติงานต่าง ๆ

      7. วุฒิการศึกษาของครูผู้สอน

      8. แบบบันทึกการนิเทศชั้นเรียน

      9. แบบบันทึกการผลิตสื่อ

      10. แบบบันทึกการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC)

      11. ประกาศมาตรฐานการศึกษาปฐมวัย

      12. ประกาศค่าเป้าหมายการศึกษาปฐมวัย

      13. วิจัยในชั้นเรียน

      14. รายงานการประชุมอบรมสัมมนาและศึกษาดูงานของครูผู้สอน

      15. รายงานกิจกรรมเยี่ยมบ้านนักเรียน

      16. รายงานผลการประเมินตนเองประจำปี

มาตรฐานที่ การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ

   โรงเรียนมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สนับสนุนผลการประเมินตนเองในมาตรฐานที่3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ได้แก่

      1. หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้าฯ

      2. รายงานกิจกรรมประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง

      3.แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และบันทึกหลังการจัดประสบการณ์ตามหน่วยการเรียนรู้

      4. แบบประเมินมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์

      5. แบบบันทึกพัฒนาการเด็ก

      6. แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนรายบุคคล

      7. รายงานกิจกรรมนักวิทยาศาสตร์น้อย

      8. โครงงานระดับปฐมวัย

      9. สื่อสารสร้างสัมพันธ์บ้านโรงเรียน

      10. งานวิจัยในชั้นเรียน

      11. แฟ้มสะสมผลงานเด็ก

ขั้นพื้นฐาน
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน

      1. โครงการส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิชาการ

      2. โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมการศึกษา

      3. โครงการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

      4. โครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและห้องสมุดมีชีวิต

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ

      1. โครงการส่งเสริมระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา

      2. โครงการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ภายนอกโรงเรียน

      3. โครงการนิเทศภายในโรงเรียน

      4. โครงการโรงเรียนน่าอยู่

      5. โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากร

      6. โครงการวางแผนอัตรากำลังและสร้างขวัญกำลังใจ

      7. โครงการพัฒนาระบบงานพัสดุ สินทรัพย์และงานสารบรรณ

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

      1. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง "เรียนรู้สู่อาชีพ"

      2. โครงการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทัษะชีวิต (Active Learning)

      3. โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสำหรับนักเรียนพิเศษเรียนร่วม

      4. โครงการวันสำคัญ

      5. โครงการส่งเสริมประชาธิปไตย

      6. โครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติดและอบายมุข

      7. โครงระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน

      8. โครงการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในโรงเรียนและค่านิยมที่พึงประสงค์



 1.3 แผนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษาในปีถัดไป

สรุปผล และแนวทางการพัฒนา

 

แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น

๑. พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาที่เข้มแข็ง โดยการนิเทศ กำกับติดตาม ให้มีการดำเนินงานตามขั้นตอนของระบบการประกันคุณภาพ โดยเริ่มจากการพัฒนามาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน จนถึงขั้นตอนการพัฒนาระบบประกันอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการประเมินภายนอก

๒. สร้างทีมงานประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับสถานศึกษา ในการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนให้พร้อมรับการประเมินภายนอก เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียนพัฒนา ระบบการพัฒนาภายในให้เข้มแข็ง

๓. พัฒนาระบบการนิเทศภายในแบบกัลยาณมิตร และการควบคุมภายในสถานศึกษา

๔. ส่งเสริมหรือจัดกิจกรรมเสริมทักษะด้านการอ่าน ฟัง ดู พูด เขียนและตั้งคำถามเพิ่มเติมอย่างหลากหลาย

๕. จัดหานวัตกรรม สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย และจัดหาสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน

๖. ส่งเสริมผู้เรียนให้มีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อย่างมีสติสมเหตุสมผลโดยจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมพัฒนาทักษะการคิด เพื่อให้นักเรียนสามารถนำเสนอวิธีคิด วิธีแก้ปัญหาด้วยภาษาหรือวิธีการของตนเอง

๗. ใช้กิจกรรมโครงงานบูรณาการเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้

๘. ส่งเสริมให้มีการประกวดแข่งขันแนวคิด นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่ในทุกระดับ

๙. เพิ่มโครงการที่จะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสูงขึ้น จัดโครงการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง

๑๐. ส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันในระดับหน่วยงานหรือสถาบันอื่นๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะต่างๆมากขึ้น เน้นกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงงาน เพราะฝึกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเกิดทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตรทั้งทักษะความสามารถการสื่อสาร การคิด การใช้ทักษะชีวิต การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และการเข้าค่ายวิชาการ

๑๑. นำผลการดำเนินงานของโครงการต่างๆมาพัฒนา ปรับปรุง ให้ดีขึ้นและรายงานการดำเนินโครงการ/กิจกรรมต่อผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง

๑๒. ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อสร้างนวัตกรรม สื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน

๑๓. พัฒนาแหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมทักษะอาชีพภายในสถานศึกษา และส่งเสริมการจัดการเรียนรู้บูรณาการทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้



 ส่วนที่ 2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR)
 2.1 ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานศึกษา (ที่ตั้ง การจัดการศึกษา สภาพชุมชน เศรษฐกิจและสังคมโดยรวม เป็นต้น)

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อสถานศึกษา : โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2)

ที่อยู่ : เลขที่ 239 หมู่ที่ 8 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี รหัสไปรษณีย์ 22170

สังกัด : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรีเขต 1

โทรศัพท์ : 0 3939 5455 โทรสาร : 0 3939 5439 E-Mail : bannongkhla@hotmail.com

เปิดสอน : ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3


              โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ที่จัดการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีการบริหารจัดการการศึกษาในเขตพื้นที่บริการ 6 หมู่ ได้แก่ หมู่ที่ 2,4,6,9,10 และ 13 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี สภาพชุมชน โรงเรียนตั้งอยู่ในเขตเทศบาล รอบบริเวณโรงเรียนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบ มีคลองวังโตนดเป็นแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร พื้นดินอุดมสมบูรณ์ดี ภูมิอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุก อาชีพของประชากร ทำสวนผลไม้ สวนพริกไทย สวนยางพารา และในชุมชนเมืองค้าขาย การอาศัยของประชากรจะกระจายเต็มพื้นที่ตามสภาพภูมิประเทศ ผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่เป็นพวกย้ายถิ่นมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อมารับจ้างประกอบอาชีพในชุมชนนี้ โดยจะรับจ้างทำสวนผลไม้ รับจ้างกรีดยาง รับจ้างเก็บพริกไทย ครอบครัวยากจน ย้ายถิ่นที่ทำกินบ่อย มีรายได้ประเพณีวัฒนธรรมแตกต่างกับท้องที่ บุตรหลานเป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา บางครั้งเรียนไม่ต่อเนื่องเพราะต้องย้ายติดตามผู้ปกครองไปรับจ้างทำงานในถิ่นอื่น ชุมชนมีความสัมพันธ์กับโรงเรียนเป็นอย่างดี ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
การบริหารจัดการ (วิสัยทัศน์ พันธกิจ อัตลักษณ์ เป้าประสงค์)

โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) 

 ได้กำหนดปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ จุดเน้น กลยุทธ์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน ไว้ดังนี้


1. ปรัชญา (Philosophy)

ปญฺญา นรานํ รตนํ : ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน


2. วิสัยทัศน์ (Vision)

โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้าฯ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ควบคู่คุณธรรม ก้าวล้ำเทคโนโลยี มีจิตอาสา ดนตรีกีฬาเด่น เห็นคุณค่าสิ่งแวดล้อม น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


3. พันธกิจ (Mission)

1. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะวิชาการ ทักษะวิชาชีพ ทักษะชีวิต คุณลักษณะในศตวรรษที่ 21

2. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรม จิตอาสา และค่านิยมอันพึ่งประสงค์

3. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ใช้เทคโนโลยีสารสนทศ และระบบบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ

4. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีศักยภาพด้านดนตรีและกีฬา

5.ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

6. ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นมืออาชีพ


4. เป้าประสงค์ (Goals)

1. ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ และคุณลักษณะของผู้เรียนในศตวรรษ ที่ 21 มีความสามารถในทางดนตรีและกีฬา

2. ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม จิตอาสา เห็นคุณค่าสิ่งแวดล้อม และยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

3. ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนทศมาประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจำวัน

4. ครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูมีทักษะการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายตอบสนองผู้เรียนเป็นรายบุคคล และทักษะในการใช้เทคโนโลยี

5. โรงเรียนให้บริการทางการศึกษาและเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ โดยร่วมมือกับชุมชน ภาคเอกชนและผู้เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา จัดสภาพแวดล้อมในโรงเรียนเพื่อการเรียนรู้ในทุกมิติ

 

5. อัตลักษณ์ (Identity)

จิตอาสา ใฝ่หาความรู้ อยู่อย่างพอเพียง


6. เอกลักษณ์ (Uniquness)

ความรู้คู่คุณธรรม เลิศล้ำดนตรีกีฬา จิตอาสาดี


7. คำขวัญ (Slogan)

สุขภาพดี มีความรู้คู่คุณธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง


8. ค่านิยม (value)

NONGKHLA MODEL

N : Nurture/จิตอาสา,การให้การอบรมบ่มนิสัย

O : Opportunity / การสร้างโอกาส

N : Nobleness/ ความมีคุณธรรมสูง

G : Gentle/มีความสุภาพ

K : Knowledge /การจัดการเรียนรู้

H : Healthy/มีสุขภาพอนามัยที่ดี

L : Life Skills/มีทักษะชีวิต

A : Attitude / การมีทัศนคติที่ดี


9. สีประจำโรงเรียน (School Colors)

ขาว (White) – น้ำเงิน (Blue)


10. จุดเน้น (Road Map)

เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2)

จึงได้กำหนดจุดเน้นการดำเนินการ โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 จุดเน้นด้านผู้เรียน

1) นักเรียนมีสมรรถนะสำคัญ สู่มาตรฐานสากล

⮚ นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษามีพัฒนาการด้านร่างกายอารมณ์จิตใจและ

สติปัญญาที่สมดุลเหมาะสมกับวัยและเรียนรู้อย่างมีความสุข

⮚ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่3มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบระดับชาติ(O-NET)กลุ่มสาระหลักเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ3

⮚ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3มีความสามารถด้านภาษาอ่านออกเขียนได้

ด้านคำนวณและด้านการใช้เหตุผลที่เหมาะสม

⮚ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้รับการส่งเสริม

ให้มีแรงจูงใจสู่อาชีพด้วยการแนะแนวทั้งโดยครูและผู้ประกอบอาชีพต่างๆ(ผู้ปกครองศิษย์เก่า

สถานประกอบการใน/นอกพื้นที่)และได้รับการพัฒนาความรู้ทักษะที่เหมาะสมกับการประกอบอาชีพสุจริตในอนาคต

⮚ นักเรียนมีทักษะชีวิตทักษะการคิดวิเคราะห์คิดสร้างสรรค์และทักษะการสื่อสาร

อย่างสร้างสรรค์อย่างน้อย2ภาษาทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้เหมาะสมตามช่วงวัย

2)นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม รักความเป็นไทย ห่างไกลยาเสพติด มีคุณลักษณะและทักษะทางสังคมที่เหมาะสม

⮚ นักเรียนระดับประถมศึกษาใฝ่เรียนรู้ใฝ่ดีและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

⮚ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นมีทักษะการแก้ปัญหาและอยู่อย่างพอเพียง

3) นักเรียนที่มีความต้องการพิเศษได้รับการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาเต็มศักยภาพเป็นรายบุคคลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย

⮚ เด็กพิการได้รับการพัฒนาศักยภาพเป็นรายบุคคลด้วยรูปแบบที่หลากหลาย

ตามหลักวิชา

⮚ เด็กด้อยโอกาสได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้

ของหลักสูตรและอัตลักษณ์แห่งตน

⮚ นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษได้รับการส่งเสริมให้มีความเป็นเลิศ

ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพื้นฐานทางวิศวกรรมศาสตร์คณิตศาสตร์ภาษากีฬาดนตรีและศิลปะ

⮚ นักเรียนที่เรียนภายใต้การจัดการศึกษาโดยครอบครัวสถานประกอบการ

บุคคลองค์กรวิชาชีพองค์กรเอกชนองค์กรชุมชนและองค์กรสังคมอื่นและการศึกษาทางเลือก

ได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐาน

⮚ เด็กกลุ่มที่ต้องการการคุ้มครองและช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษได้รับการคุ้มครอง

และช่วยเหลือเยียวยาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย

⮚ เด็กวัยเรียนในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษาและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต

 

ส่วนที่ 2 จุดเน้นด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา

1) ครูได้รับการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในการสื่อสารมีสมรรถนะในการสอน

อย่างมีประสิทธิภาพ

⮚ ครูได้รับการพัฒนาวิธีการจัดการเรียนการสอนการสอนคิดแบบต่างๆ และ

การวัดประเมินผลให้สามารถพัฒนาและประเมินผลนักเรียนให้มีคุณภาพตามศักยภาพเป็นรายบุคคล

⮚ ครูสามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศและ

การสื่อสารอย่างเหมาะสม

⮚ ครูได้รับการนิเทศแบบกัลยาณมิตรโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาผู้บริหาร

สถานศึกษาและครูทั้งในโรงเรียนระหว่างโรงเรียนหรือภาคส่วนอื่นๆตามความพร้อมของโรงเรียน

⮚ ครูสร้างเครือข่ายการเรียนรู้การมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและทุกภาคส่วน

ให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้

⮚ ครูจัดการเรียนการสอนให้สอดรับกับการเป็นประชาคมอาเซียน

⮚ ครูและบุคลากรทางการศึกษามีจิตวิญญาณของความเป็นครูการเป็นครูมืออาชีพ

และยึดมั่นในจรรยาบรรณของวิชาชีพ

2)ครูที่เป็นมืออาชีพ มีผลงานเชิงประจักษ์ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติอย่างเหมาะสม

ส่วนที่ 3 จุดเน้นด้านการบริหารจัดการ

1) สถานศึกษาบริหารจัดการโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์เน้นการมีส่วนร่วม และมีความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงาน (Participation and Accountability) มาตรฐานการศึกษาที่ผ่านการรับรองคุณภาพภายนอกในระดับพอใช้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบ (O - NET) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเขตพื้นที่/ประเทศ ได้รับการแก้ไขแทรกแซง ช่วยเหลือ นิเทศ ติดตาม และประเมินผล โดยสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนและเป็นผู้ประสานงานหลัก ให้โรงเรียนทำแผนพัฒนาเป็นรายโรงเรียนร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

⮚โรงเรียนเชิดชูเกียรตินักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น

⮚องค์คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา เร่งรัดและติดตามการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเข้มแข็ง เป็นกัลยาณมิตร

2)สถานศึกษาจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน

⮚สถานศึกษา มีระบบประกันคุณภาพภายใน ได้ระดับมาตรฐานของสำนักงาน

เขตพื้นที่การศึกษา และหรือผ่านการรับรองจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)


11. กลยุทธ์ (Strategy)

จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) จึงกำหนดกลยุทธ์เพื่อให้รองรับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 5 กลยุทธ์ ดังต่อไปนี้

กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับตามหลักสูตรและส่งเสริมความสามารถด้านเทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 2 ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความเป็นไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมกลยุทธ์ที่ 3 สร้างโอกาสทางการศึกษาให้ผู้เรียนได้รับโอกาสในการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ

กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างมีคุณภาพ

กลยุทธ์ที่ 5 พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาตามแนวทางการกระจายอำนาจทางการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา

 


ข้อมูลบุคลากร (ผู้บริหาร ครู พนักงานราชการ อัตราจ้าง พนักงานธุรการ ภารโรง)

ผู้บริหาร ครู พนักงานราชการ อัตราจ้าง พนักงานธุรการ ภารโรง
3 42 0 7 1 2


ข้อมูลนักเรียน (นำเสนอเป็นกราฟ)

ข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษา/ศึกษาต่อ (นำเสนอเป็นกราฟ)

ข้อมูลหลักสูตรที่จัดการเรียนการสอน

โครงสร้างหลักสูตร

โรงเรียนใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 มีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย และคู่มือประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย จัดประสบการณ์การเรียนรู้เป็นหน่วยการเรียนรู้ เวลาเรียนตลอดหลักสูตร 2 ปี ปีละ 40 สัปดาห์ (200 วัน โดยประมาณ) สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 5 ชั่วโมง และจัดการสอน ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2551 โดยโรงเรียนได้จัดสัดส่วน สาระการเรียนรู้และเวลาเรียน ดังแสดงในตารางต่อไปนี้

โครงสร้างหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

โรงเรียนบ้านอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) พุทธศักราช 2560
( ฉบับปรับปรุง 2561)

ช่วงอายุ

อายุ 3 - 6 ปี

สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สำคัญ

สาระที่ควรเรียนรู้

- ด้านร่างกาย

- ด้านอารมณ์ จิตใจ

- ด้านสังคม

- ด้านสติปัญญา

- เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก

- เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่

แวดล้อมเด็ก

- ธรรมชาติรอบตัว

- สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก

การจัดประสบการณ์เรียนรู้ มี 6 กิจกรรม ดังนี้

1) กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ 2) กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 3) กิจกรรมสร้างสรรค์

4) กิจกรรมเล่นตามมุม 5) กิจกรรมกลางแจ้ง 6) เกมการศึกษา

ระยะเวลาเรียน

จัดการศึกษา 2 ภาคเรียน : 1 ปีการศึกษา

ชั้นอนุบาลปีที่ 1 อายุระหว่าง 3 – 4 ปี

ชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุระหว่าง 4 – 5 ปี

ชั้นอนุบาลปีที่ 3 อายุระหว่าง 5 – 6 ปี

ไม่น้อยกว่า 180 วัน : 1 ปี ใช้เวลา 5 – 6 ชั่วโมง : 1 วัน

25 - 30 ชั่วโมง/สัปดาห์

หมายเหตุ 3 – 4 ปี มีความสนใจ 8 – 12 นาที

4 – 5 ปี มีความสนใจ 12 – 15 นาที

5 – 6 ปี มีความสนใจ 15 – 20 นาที

* กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใช้เวลาต่อเนื่องนานเกินกว่า 20 นาที

* กิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรี เช่น การเล่นตามมุม การเล่นกลางแจ้ง ใช้เวลา 40 – 60 นาที

* การจัดประสบการณ์เรียนรู้ระดับปฐมวัย ตามแนวคิดมอนเตสซอรี่ ในบริบท สพฐ.

* การจัดประสบการณ์เรียนรู้ระดับปฐมวัย STEM ในระดับปฐมวัย

* การจัดประสบการณ์เรียนรู้ระดับปฐมวัย บ้านวิทยาศาสตร์น้อยแห่งประเทศไทย


โครงสร้างหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2)

โครงสร้างเวลาเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ตามหลักสูตรสถานศึกษาปรับปรุง พ.ศ. 2561

กลุ่มสาระการเรียนรู้ / กิจกรรม

เวลาเรียน(ชั่วโมง)

ระดับประถมศึกษา

ป.1

ป.2

ป.3

ป.4

ป.5

ป.6

⯄รายวิชาพื้นฐาน

 

ภาษาไทย

160

160

160

160

160

160

คณิตศาสตร์

160

160

160

160

160

160

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

80

80

80

120

120

120

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

80

80

80

80

80

80

ประวัติศาสตร์

40

40

40

40

40

40

สุขศึกษาและพลศึกษา

80

80

80

80

80

80

ศิลปะ(ทัศนศิลป์/ดนตรี/นาฏศิลป์)

80

80

80

80

80

80

การงานอาชีพ

40

40

40

40

40

40

ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)

120

120

120

80

80

80

รวมเวลาเรียน(พื้นฐาน)

840

840

840

840

840

840

⯄รายวิชาเพิ่มเติม

 

หน้าที่พลเมือง

40

40

40

40

40

40

ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร

80

80

80

-

-

-

ดนตรีไทย

-

-

-

80

80

80

รวมเวลาเรียน (เพิ่มเติม)

120

120

120

120

120

120

⯄กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

 

กิจกรรมแนะแนว

40

40

40

40

40

40

กิจกรรมนักเรียน







• กิจกรรมลูกเสือ–เนตรนารี

40

40

40

40

40

40

• กิจกรรมชุมนุม

40

40

40

40

40

40

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

(10)

(10)

(10)

(10)

(10)

(10)

รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

120

120

120

120

120

120

รวมเวลาเรียน

1,080

1,080

1,080

1,080

1,080

1,080

หมายเหตุ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ จัดบูรณาการในกิจกรรมลูกเสือ–เนตรนารี โครงการ/กิจกรรมต่างๆ โดยจัดทั้งในเวลา และนอกเวลาเรียน

โครงสร้างหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2)

โครงสร้างเวลาเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ตามหลักสูตรสถานศึกษาปรับปรุง พ.ศ. 2561


กลุ่มสาระการเรียนรู้ / กิจกรรม

เวลาเรียน(ชั่วโมง)

ระดับมัธยมศึกษา

ม.1

ม.2

ม.3

⯄รายวิชาพื้นฐาน


ภาษาไทย

120

120

120

คณิตศาสตร์

120

120

120

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

120

120

120

- วิทยาการคำนวณ

- ออกแบบและเทคโนโลยี

40

40

40

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

120

120

120

ประวัติศาสตร์

40

40

40

สุขศึกษาและพลศึกษา

80

80

80

ศิลปะ(ทัศนศิลป์/ดนตรี/นาฏศิลป์)

80

80

80

การงานอาชีพ

40

40

40

ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)

120

120

120

รวมเวลาเรียน(พื้นฐาน)

880

880

880

⯄รายวิชาเพิ่มเติม


หน้าที่พลเมือง

40

40

40

คอมพิวเตอร์สู่อาชีพ

80

80

80

การงานเรียนรู้สู่อาชีพ

80

80

80

รวมเวลาเรียน (เพิ่มเติม)

200

200

200

⯄กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน


กิจกรรมแนะแนว

40

40

40

กิจกรรมนักเรียน




• กิจกรรมลูกเสือ–เนตรนารี

40

40

40

• กิจกรรมชุมนุม

40

40

40

กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

(15)

(15)

(15)

รวมเวลากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

120

120

120

รวมเวลาเรียนทั้งหมด

1,200 ชม./ปี

1,200 ชม./ปี

1,200 ชม./ปี

หมายเหตุ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ จัดบูรณาการในกิจกรรมลูกเสือ–เนตรนารี โครงการ/กิจกรรมต่างๆ โดยจัดทั้งในเวลา และนอกเวลาเรียน



ข้อมูลอาคารสถานที่ (นำเสนอเป็นความเรียง หรือกราฟ หรือแผนภูมิ)

ข้อมูลด้านอาคารสถานที่ แหล่งเรียนรู้และการใช้

ข้อมูลทรัพยากร

โรงเรียนมีพื้นที่จำนวน 12 ไร่ - งาน 92 ตารางวา โดยมีอาคารเรียนและอาคารประกอบดังนี้

อาคารเรียน

1. อาคารเรียนหลังที่ 1 เป็นอาคารแบบ 004 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2511 เป็นเงิน 499,000 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 10 ห้องเรียน

2. อาคารเรียนหลังที่ 2 เป็นอาคารแบบ ป 1 ข ได้รับงบประมาณก่อสร้าง พ.ศ. 2507 เป็นเงิน 75,680 บาท ขนาด 3 ห้องเรียน

3. อาคารเรียนหลังที่ 3 เป็นอาคารแบบ 004 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2516 เป็นเงิน 750,000 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 12 ห้องเรียน

4. อาคารเรียนหลังที่ 4 เป็นอาคารแบบ 105/29 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2539 เป็นเงิน 2,400,000 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 10 ห้องเรียน

5. อาคารเรียนหลังที่ 5 เป็นอาคารแบบ 105/29 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2548 เป็นเงิน 1,684,800 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 4 ห้องเรียน ได้รับงบประมาณต่อเติมชั้นล่างเป็นห้องประชุมจาก อบจ. จันทบุรี เป็นเงิน 500,000.- บาท

6. อาคารเรียนหลังที่ 6 เป็นอาคารแบบ 105/29 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2553 เป็นเงิน 2,537,600 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 4 ห้องเรียน ปี 2555 ต่อเติม ชั้นล่างเป็นห้องสมุด 3D เป็นเงิน 1,900,000.- บาท

7. อาคารเรียนหลังที่ 7 เป็นอาคารแบบ 105/29 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ.2558 เป็นเงิน 3,410,000 บาท สร้างอาคารเรียนขนาด 2 ชั้น 4 ห้องเรียน

อาคารประกอบ

1. อาคารเอนกประสงค์ แบบ 312 ได้งบประมาณได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อพ.ศ.2517 เป็นเงิน 45,000 บาท

2. บ้านพักครูหลังที่ 1 แบบกรมสามัญศึกษา ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2515 งบประมาณ 25,000 บาท

3 บ้านพักครูหลังที่ 2 แบบกรมสามัญศึกษา ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2518 งบประมาณ 40,000 บาท

4. บ้านพักครูหลังที่ 3 แบบกรมสามัญศึกษา ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2519 งบประมาณ 45,000 บาท

5. บ้านพักครูหลังที่ 4 แบบกรมสามัญศึกษา ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2520 งบประมาณ 75,000 บาท

6. ส้วม แบบ สปช. 601/26 ขนาด 4 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง เมื่อ พ.ศ. 2527 เป็นเงิน 35,000 บาท

7. ส้วม แบบ สปช. 602/26 ขนาด 10 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2535 เป็นเงิน 220,000 บาท

8. ส้วม แบบ สปช. 601/26 ขนาด 10 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นเงิน 170,000 บาท

9. ส้วม แบบ สปช. 605/45 ขนาด 10 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2551 เป็นเงิน 520,000 บาท

10. ส้วม แบบ สพฐ. 4 ขนาด 4 ที่นั่ง จำนวน 1 หลัง ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2553 เป็นเงิน 350,700 บาท

สิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ

1. เสาธงชาติ แบบสร้างเอง สูง 12 เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ.2519 ด้วยเงินบริจาค 6,000 บาท

2. ถังน้ำซีเมนต์ แบบกรมอนามัย สร้างเมื่อ พ.ศ.2514 ด้วยเงินงบประมาณ จำนวน 11,500 บาท

3. บ่อน้ำบาดาล กรมทรัพยากรธรณี สร้างเมื่อพ.ศ.2543

4. พระพุทธรูปประจำโรงเรียนปางประทานพร 1 องค์ (พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโยวัดเขาสุกิม) มอบให้ปี พ.ศ. 2529 เป็นเงิน 140,000 บาท

5. ลานกีฬาเอนกประสงค์ ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2545 เป็นเงิน 100,000 บาท

6. สนามบาสเก็ตบอล แบบกรมพลศึกษา ได้รับงบประมาณสร้างเมื่อ พ.ศ. 2552 เป็นเงิน 392,000 บาท

7. ถนน คสล. สร้างพ.ศ. 2543 โดยบริจาคและเทศบาลตำบลหนองคล้าสนับสนุนเป็นเงิน 434,500 บาท

8. รั้วคอนกรีตพร้อมประตูเหล็ก และป้ายชื่อโรงเรียน744 เมตรโดยงบบริจาค เป็นเงิน 800,000 บาท

9. สนามเด็กเล่น BBL บริจาคโดย นายวีระชัย จารุเจริญทรัพย์



หลักฐานอ้างอิง :
ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกสถานศึกษา (นำเสนอเป็นความเรียง หรือกราฟ)

แหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา ได้แก่

1. ห้องสมุด 3 ดี อยู่ด้านหลังอาคาร TCT

2. แท็งก์น้ำประปาโรงเรียน อยู่ด้านทิศตะวันตกของโรงเรียน ติดกับอาคารเรียน 1

3. ห้องตัดเย็บเสื้อผ้า อยู่ด้านหลังอาคาร 1

4. ศูนย์ Eric อยู่ชั้น 1 อาคารเรียน 3

5. โรงอาหาร อยู่ด้านหลังของอาคารเรียน 2

6. ห้องวิทยาศาสตร์ 1 อยู่หลังอาคาร 1

7. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 1, 2, 3 อยู่ชั้น 2 อาคาร ICT

8. โรงฝึกงาน อยู่ติดรั้วด้านทิศตะวันออกของโรงเรียน

9. ห้องพยาบาล อยู่ชั้น 1 อาคารเรียน 3

10. ห้องดนตรี – นาฏศิลป์ อยู่ด้านหลังอาคาร 1

11. ห้องดนตรีไทย อยู่ด้านหลังอาคาร 3

12. สนามฟุตบอล อยู่ด้านหน้าอาคาร 1

13. ห้องคณิตศาสตร์ อยู่ชั้น 1 อาคาร 1

14. ห้องวิทยาศาสตร์ อยู่ 1 อาคารเรียน 3

15. สนามบาสเกตบอล อยู่ระหว่างอาคาร 5 และโรงฝึกงาน

16. แปลงผัก อยู่ด้านหน้าโรงฝึกงาน

17. ห้องประชุมธารน้ำใจ อยู่ชั้น 1 ขออาคารเรียน 5

18. ลานกีฬาเอนกประสงค์ อยู่ด้านหน้าอาคาร 2

19. ห้องวิชาการ อยู่ชั้น 2 อาคาร 2

20. ห้องเรียนในระดับชั้นต่างๆ ตามอาคารเรียน

21. ลานจามจุรี อยู่ทางตะวันออกของอาคาร 2


แหล่งเรียนรู้ภายนอกสถานศึกษา ได้แก่

1. ตึกแดง อ.แหลมสิงห์

2. คุกขี้ไก่ อ.แหลมสิงห์

3. วัดศรีเมือง อ.ท่าใหม่

4. วัดเขาสุกิม

5. แหล่งทอเสื่อจันทบูร บ้านบางสระเก้า

6. สวนสมุนไพรจันทบุรี

7. วัดทองทั่ว

8. วัดเขาพลอยแหวน

9. โอเอซีล ซีเวิลด์

10. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

11. น้ำตกคลองนารายณ์

12. น้ำตกพลิ้ว

13. น้ำตกกระทิง

14. ค่ายลูกเสือจังหวัดจันทบุรี

15. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำระยอง จังหวัดระยอง (โครงการแหล่งเรียนรู้วิถีไทยและภูมิปัญญาไทย)

16. เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ (โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้)

17. พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ จังหวัดสมุทรปราการ (โครงการทัศนศึกษาแหล่งเรียนรู้)

 


หลักฐานอ้างอิง :
 ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
1) ผลการประเมินพัฒนาการระดับปฐมวัย (นำเสนอเป็นกราฟ) สำหรับสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย


2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับสถานศึกษา (นำเสนอเป็นกราฟ)


3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.1) ผลการทดสอบระดับชาติ RT (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.2) ผลการทดสอบระดับชาติ NT (นำเสนอเป็นกราฟ)


4.3) ผลการทดสอบระดับชาติ O-NET (นำเสนอเป็นกราฟ)


5) ผลการประเมินสมรรถนะ (นำเสนอเป็นกราฟ)


 2.2 ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา
 2.2.1 ระดับปฐมวัย
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
มีคุณภาพระดับ  ดีเลศ
กระบวนการพัฒนา  

1. กระบวนการพัฒนา

1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกายแข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้

โรงเรียนได้ดำเนินการพัฒนาเด็กโดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการตามหน่วยการเรียนรู้โดยยึดเด็กเป็นสำคัญ จัดกิจกรรมตามตารางประจำวันเพื่อให้เด็กมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมีพัฒนาการตามวัย มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ โดยเน้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลของตนเองจากโรคภัยไข้เจ็บ การปฏิบัติสุขนิสัยในการดูแลสุขภาพของตน การล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหารเพื่อสร้างสุขนิสัยที่ดี การช่วยเหลือตนเอง การออกกำลังกาย จัดให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ถูกสุขลักษณะ มีปริมาณเหมาะสมตามวัยและดื่มน้ำสะอาด มีการตรวจความสะอาดของร่างกาย ตรวจสุขภาพฟัน เล็บ ผม เสื้อผ้าทุกสัปดาห์ และมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาตรวจสุขภาพร่างกายของเด็ก มีการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงของเด็กทุกเดือน เพื่อเฝ้าติดตาม การเจริญเติบโตของเด็กเป็นรายบุคคล นอกจากนี้โรงเรียนจัดให้มีอาหารเสริมนมโรงเรียน มีการควบคุมดูแลให้เด็กดื่มนมเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เด็กส่วนใหญ่มีน้ำหนักส่วนสูง และสมรรถภาพทางกายเป็นไปตามเกณฑ์ของกรมอนามัย กิจกรรมกลางแจ้งที่ส่งเสริมให้เด็กได้แสดงออกทางด้านร่างกายตามความถนัดและความสนใจ โดยมีกฎ กติกา ข้อตกลงในการดูแลตนเองให้ปลอดภัยหลีกเลี่ยงจากอันตราย มีการจัดบอร์ดให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตในสถานการณ์โควิด 19 การดูแลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน และวิธีการดูแลรักษาความปลอดภัยของตนเอง

1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้

โรงเรียนได้พัฒนาและส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกทางอารมณ์ จิตใจและความรู้สึกได้เหมาะสมกับวัย โดยดำเนินโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจของเด็กอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กกล้าพูด กล้าแสดงออก มั่นใจในตนเอง อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใสควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม รู้จักยับยั้งชั่งใจ อดทน อดกลั้น รู้จักการรอคอย และมีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอาสิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตน นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กมีสุนทรียภาพในการชื่นชมและมีความสุขกับงานศิลปะด้านต่าง ๆ เช่น ด้านศิลปะสร้างสรรค์ คุณครูจัดประสบการณ์ตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยบูรณาการกับศิลปะ ให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ที่หลากหลายสอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้ตามความถนัดและความสนใจ เพื่อสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ให้เด็กได้ทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ทั้งในและนอกห้องเรียน มีการจัดมุมแสดงผลงานของเด็ก ส่งเสริมให้เด็กยอมรับและภูมิใจในความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น ด้านดนตรี โรงเรียนส่งเสริมให้เด็กแสดงออกผ่านดนตรีประกอบท่าทางในกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งสนับสนุนให้ครูผู้สอนจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้เสียงเพลงและเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ เพื่อให้เด็กเกิดความสนุกสนานและเพลิดเพลิน มีการจัดกิจกรรมอ่าน ร้อง เล่น เต้น สร้างสรรค์ ให้เด็กได้แสดงออกตามศักยภาพของตนเอง

1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม

โรงเรียนมีการส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีวินัยในตนเอง มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ มีมารยาทที่ดี ยิ้ม ไหว้ ทักทาย ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ โดยมีนโยบายในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์และปลูกฝังเรื่องค่านิยม 12 ประการให้แก่เด็ก ผ่านกิจกรรมประจำวันและเน้นให้ครูดำเนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงบูรณาการตามหน่วยการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมแสดงออกด้านสังคมได้อย่างเหมาะสมกับวัย จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติในการช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน การมีวินัยในตนเอง รู้จักใช้สิ่งของอย่างประหยัดและมีความพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กรู้จักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน ภายนอกห้องเรียนและบริเวณในโรงเรียน มีการจัดเวรประจำวัน ฝึกให้เด็กรู้จักทำความสะอาด ปัดฝุ่น กวาดห้อง รดน้ำต้นไม้ เก็บขยะ เก็บใบไม้ ปลูกฝังมารยาทตามวัฒนธรรมไทย รู้จักกล่าวคำขอบคุณเมื่อผู้ใหญ่ให้ของ และกล่าวคำขอโทษเมื่อทำผิด รู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น ยอมรับและเคารพความแตกต่างระหว่างบุคคล เรียนรู้การปรับตัว ในการทำกิจกรรมและเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ นอกจากนี้โรงเรียนได้ฝึกให้เด็กสวดมนต์ไหว้พระและนั่งสมาธิเป็นประจำ เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนเห็นคุณค่าความสำคัญของศาสนาที่ตนนับถือ

1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหาความรู้ได้

โรงเรียนส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการด้านสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย สื่อสารได้มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้ โดยเน้นให้ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบบูรณาการที่ส่งเสริมทักษะการสื่อสาร ทักษะการคิดพื้นฐาน มีความคิดรวบยอด คิดเชิงเหตุผล และรู้จักแก้ปัญหา มีการออกแบบการจัดประสบการณ์ที่เน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติในหน่วยการเรียนรู้ต่าง ๆ จัดกิจกรรมให้เด็กได้ทดลองวิทยาศาสตร์ โดยบูรณาการกิจกรรมในโครงการนักวิทยาศาสตร์น้อย กิจกรรมสะเต็ม กิจกรรมไฮสโคป กิจกรรมวิยาการคำนวณ เป็นการปฏิบัติการทดลอง การสังเกต ความคิดสร้างสรรค์ รู้จักแก้ปัญหา มีการจัดส่งเสริมให้เด็กมีความสนใจเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว กล้าซักถามเพื่อค้นหาคำตอบ ครูส่งเสริมให้เด็กสร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและจินตนาการ สนับสนุนให้เด็กมีนิสัยรักการอ่านด้วยกิจกรรมการเล่านิทาน ผ่านกิจกรรมอ่าน ร้อง เล่น เต้น สร้างสรรค์ จัดให้มีมุมหนังสือในห้องเรียน จัดกิจกรรมการเล่นตามมุมและมีมุมประสบการณ์ให้เด็กได้เลือกเล่นตามความสนใจ สนับสนุนให้เด็กใช้สื่อเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความใฝ่รู้ใฝ่เรียนและแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง


ผลการดำเนินงาน  

2. ผลการดำเนินงาน

1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดีและดูแลความปลอดภัยของตนเองได้ มีจำนวนเด็กที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 86.10 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ จากการดำเนินการโครงการ/กิจกรรมที่หลากหลายพัฒนาคุณภาพเด็กด้านร่างกาย ส่งผลให้เด็กมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีพัฒนาการตามวัย เคลื่อนไหวร่างกายคล่องแคล่ว ทรงตัวได้ดี ใช้มือและตาประสานสัมพันธ์ได้ดี ดูแลรักษาสุขภาพอนามัยส่วนตนและปฏิบัติจนเป็นนิสัย รู้จักล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร ได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำสะอาด มีน้ำหนักส่วนสูง และสมรรถภาพทางกายเป็นไปตามเกณฑ์ของกรมอนามัย รู้จักการปฏิบัติตนตามข้อตกลงเกี่ยวกับความปลอดภัย หลีกเลี่ยงสภาวะที่เสี่ยงต่อโรค สิ่งเสพติด และระวังภัยจากบุคคล สิ่งแวดล้อม และสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตราย สามารถดูแลและระมัดระวังตนเองในขณะเล่นเครื่องเล่นสนามและของเล่นทุกครั้ง

1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุมและแสดงออกทางอารมณ์ได้ มีจำนวนเด็กที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 94.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม จากการดำเนินการโครงการ/กิจกรรมที่หลากหลายพัฒนาคุณภาพเด็กด้านอารมณ์ จิตใจ ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกทางอารมณ์ จิตใจและความรู้สึกได้เหมาะสมกับวัย มีความกล้าแสดงออก มั่นใจในตนเอง อดทน อดกลั้น รู้จักการรอคอย อารมณ์ดี ร่าเริงแจ่มใส มีจิตสำนึกและค่านิยมที่ดี รู้จักช่วยเหลือแบ่งปัน เคารพสิทธิ รู้หน้าที่รับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรมตามที่สถานศึกษากำหนด ชื่นชมและมีความสุขกับดนตรี และการเคลื่อนไหว มีความสุขกับงานศิลปะด้านต่าง ๆ ยอมรับและพอใจในความสามารถ และผลงานของตนเองและผู้อื่น

1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเองและเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม มีจำนวนเด็กที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 89.10 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ จากการดำเนินการโครงการ/กิจกรรมที่หลากหลายพัฒนาคุณภาพเด็กด้านสังคม ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมแสดงออกด้านสังคมได้อย่างเหมาะสมกับวัย รู้จักช่วยเหลือตนเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีวินัยในตนเอง ประหยัดและพอเพียง มีส่วนร่วมดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนหรือโรงเรียน มีมารยาทตามวัฒนธรรมไทย เช่น การไหว้ การยิ้มทักทาย และมีสัมมาคารวะกับผู้ใหญ่ เป็นต้น รู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น ยอมรับและเคารพความแตกต่างระหว่างบุคคล เล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้แก้ไขข้อขัดแย้งโดยปราศจากการใช้ความรุนแรง

1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐานและแสวงหาความรู้ได้ มีจำนวนเด็กที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 81.10 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ จากการดำเนินการโครงการ/กิจกรรมที่หลากหลายพัฒนาคุณภาพเด็กด้านสติปัญญา ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญาที่เหมาะสมกับวัย มีทักษะการสื่อสาร สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่องให้ผู้อื่นเข้าใจ มีทักษะการคิดพื้นฐาน มีความคิดรวบยอด คิดเชิงเหตุผล รู้จักแก้ปัญหาและสามารถตัดสินใจในเรื่องง่ายๆได้ ตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือสงสัย และพยายามค้นหาคำตอบ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สร้างผลงานตามความคิดและจินตนาการ เช่น งานศิลปะ การเคลื่อนไหวท่าทาง การเล่นอิสระ เป็นต้น มีนิสัยรักการอ่าน อ่านนิทานและเล่าเรื่องที่ตนเองอ่านได้เหมาะสมกับวัย และใช้สื่อเทคโนโลยี เช่น แว่นขยาย แม่เหล็ก กล้องดิจิตอล เป็นต้น เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ได้


ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1kldRkrcDW07UOWZT4EYK2d5ygRWB5JMy/edit
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

1. กระบวนการพัฒนา

1.1 มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น

โรงเรียนมีกระบวนการจัดการบริหารและการจัดการหลักสูตร โดยประชุมวางแผนในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัย กำหนดแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้บรรลุมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์และครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านตามที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนด มีการศึกษาหลักสูตรแกนกลางปฐมวัย พุทธศักราช 2560 เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดหัวข้อในการบูรณาการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะต่าง ๆ เน้นการจัดประสบการณ์ที่เตรียมความพร้อม เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตามศักยภาพ มีการประเมินผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

1.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน

โรงเรียนมีการแต่งตั้งครูผู้รับผิดชอบการสอนและเป็นครูประจำชั้นในแต่ละชั้น โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและตรงตามวิชาเอกของคุณครู จัดครูให้เพียงพอและเหมาะสมกับภารกิจการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีการจัดครูที่จบเอกการศึกษาปฐมวัยประจำชั้นในแต่ละห้องเพื่อให้สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กได้อย่างมีคุณภาพ

1.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์

โรงเรียนส่งเสริมและพัฒนาครูให้มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ มีความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญด้วยรูปแบบที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ พัฒนาครูให้สามารถวิเคราะห์และออกแบบหลักสูตรสถานศึกษา ส่งเสริมครูให้มีความรู้และทักษะในการจัดประสบการณ์หรือออกแบบการจัดกิจกรรม และประเมินพัฒนาการเด็กเป็นรายบุคคล อีกทั้งยังส่งเสริมให้ครูเข้าร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำมาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของเด็ก นอกจากนี้โรงเรียนยังส่งเสริมให้ครูเข้ารับการอบรม สัมมนา ประชุมออนไลน์ตามหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์และพัฒนางานในหน้าที่อย่างต่อเนื่อง

1.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและเพียงพอ

โรงเรียนมีการจัดสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและมีความปลอดภัย มีการจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้เป็นรายบุคคลและรายกลุ่มของเด็ก โดยจัดให้มีมุมประสบการณ์หลากหลาย เช่น มุมบทบาทสมมติ มุมบล็อก มุมวิทยาศาสตร์ มุมหนังสือ มุมเกมการศึกษา มีการจัดป้ายนิเทศตามหน่วยการเรียนรู้ วันสำคัญต่าง ๆ มีการจัดหาสื่อ การเรียนรู้และสื่อเพื่อการสืบเสาะหาความรู้ให้แก่เด็ก

1.5 ให้บริการสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์สำหรับครู

โรงเรียนจัดหาสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการเพื่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ เช่น จัดให้มีห้องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เด็กได้ศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

1.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

โรงเรียนมีการส่งเสริมบทบาทครูปฐมวัยและบุคลากรทุกฝ่ายให้มีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและอัตลักษณ์ของสถานศึกษา การทำแผนพัฒนาการศึกษาที่สอดรับมาตรฐานการศึกษา ส่งเสริมบทบาทครูในการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา โดยจัดทำคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ การจัดเก็บร่องรอยหลักฐานการดำเนินงาน ส่งเสริมให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัดทำรายงานผลการประเมินตนเองประจำปี และนำผลไปปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษา พร้อมทั้งรายงานผลการประเมินตนเองให้หน่วยงานต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง
ผลการดำเนินงาน  

2. ผลการดำเนินงาน

โรงเรียนมีผลสำเร็จของการจัดกระบวนการบริหารและจัดการ ตามประเด็นพิจารณา ดังนี้

2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น คิดเป็นร้อยละ 90.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม

โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษาระดับปฐมวัยที่ครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สนองความต้องการและความแตกต่างของเด็กปกติ กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่น

2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน คิดเป็นร้อยละ 100.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม

โรงเรียนมีครูเพียงพอและเหมาะสมกับภารกิจการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ มีครูที่จบเอกการศึกษาปฐมวัยที่สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กได้อย่างมีคุณภาพ โดยมีห้องเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 2 ห้องเรียน ห้องเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 จำนวน 2 ห้องเรียน ครูประจำชั้นที่มีวุฒิการศึกษาปฐมวัยจำนวน 4 คน

2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ คิดเป็นร้อยละ 90.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม

โรงเรียนมีครูที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์ มีความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ และการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญด้วยรูปแบบที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ ครูปฐมวัยทุกคน เข้าร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำมาใช้ในการพัฒนางานและการเรียนรู้ของเด็กอย่างต่อเนื่อง

2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัยและพอเพียง คิดเป็นร้อยละ 74.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดี

โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกห้องเรียนที่มีความปลอดภัยมีบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก โดยมีมุมประสบการณ์หลากหลาย มีสื่อการเรียนรู้และสื่อเพื่อการสืบเสาะหาความรู้ให้แก่เด็ก

2.5 ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์สำหรับครู คิดเป็นร้อยละ 85.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

โรงเรียนมีสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุ และอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์ของครู จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการเพื่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม คิดเป็นร้อยละ 85.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานการศึกษาที่สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและอัตลักษณ์ของสถานศึกษา ร่วมจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาที่สอดรับมาตรฐานการศึกษา ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพภายในสถานศึกษา


ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1kldRkrcDW07UOWZT4EYK2d5ygRWB5JMy/edit
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
มีคุณภาพระดับ  ดีเลิศ
กระบวนการพัฒนา  

1. กระบวนการพัฒนา

1.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ

โรงเรียนส่งเสริมและพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและสติปัญญาตลอดจนความรู้ความสามารถเต็มศักยภาพตามหลักสูตรกำหนดบูรณาการผ่านการเรียนรู้ 6 กิจกรรมหลักตามตารางกิจกรรมประจำวัน โดยส่งเสริมให้ครูพัฒนาความรู้ของตนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กอย่างมีประสิทธิภาพ ครูวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล และออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก จัดทำแผนการจัดประสบการณ์จากการวิเคราะห์มาตรฐาน คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในหลักสูตรสถานศึกษา โดยเน้นให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น และมีการติดตามประเมินผลพัฒนาการของเด็กอย่างเป็นระบบ

1.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข

ครูจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง โดยเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมจากการเรียนผ่านการเล่น โดยลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองอย่างมีความสุข ให้เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการ ความสนใจและความสามารถ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

1.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย

โรงเรียนจัดบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยจัดห้องเรียนให้สะอาด อากาศถ่ายเท ปลอดภัย มีป้ายนิเทศตามหน่วยการเรียนรู้ วันสำคัญหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ มีพื้นที่สำหรับการจัดมุมประสบการณ์และเหมาะสมกับการทำกิจกรรมกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อย จัดให้มีพื้นที่แสดงผลงานเด็กเพื่อให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนและได้ชื่นชมผลงานของเพื่อน ๆ ครูให้เด็กมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนและจัดเวรประจำวันเพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดและส่งเสริมให้เด็กมีนิสัยรักความสะอาดและฝึกความรับผิดชอบ ครูใช้สื่อทั้งที่เป็นของจริงและสื่อธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีเหมาะสมกับอายุ ระยะสนใจ และวิถีการเรียนรู้ของเด็ก ใช้สื่อหรือของเล่นกระตุ้นให้เด็กคิดและหาคำตอบด้วยตนเอง

1.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก

การประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยเป็นงานสำคัญที่เกิดควบคู่ไปกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้และการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน โดยครูเก็บร่องรอยหลักฐานการเรียนรู้และพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล มีการประเมินตามสภาพจริงและจัดการประเมินอย่างเป็นระบบด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย ไม่ใช้แบบทดสอบ จัดการประเมินพัฒนาการเด็กในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย มีการจัดทำรายงานผลการประเมินพัฒนาการของเด็กให้ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน ส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการประเมินเด็ก และมีการนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปวางแผน ปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ผลการดำเนินงาน  

2. ผลการดำเนินงาน

โรงเรียนมีผลสำเร็จของการจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ ตามประเด็นพิจารณา ดังนี้

2.1 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพจำนวนครูที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 90.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม

โรงเรียนมีครูที่มุ่งมั่นพัฒนาความรู้ของตนเกี่ยวกับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กอย่างมีประสิทธิภาพ ครูวิเคราะห์ข้อมูลเด็กเป็นรายบุคคล และออกแบบกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็ก ครูมีแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญและให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น

2.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่น และปฏิบัติอย่างมีความสุข จำนวนครูที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 89.10 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

เด็กได้รับประสบการณ์ตรง โดยเชื่อมโยงกับประสบการณ์เดิมจากการเรียนผ่านการเล่น โดยลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเองอย่างมีความสุข เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระตามความต้องการและสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

2.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ใช้สื่อ และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย จำนวนครูที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 81.10 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

โรงเรียนมีบรรยากาศทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก ครูและเด็กได้ร่วมกันจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนและจัดเวรประจำวันเพื่อช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ครูมีสื่อทั้งที่เป็นของจริงและสื่อธรรมชาติที่อยู่ใกล้ตัวเด็ก ครูใช้สื่อและเทคโนโลยีเหมาะสมกับอายุ ระยะสนใจ และวิถีการเรียนรู้ของเด็ก มีการกระตุ้นให้เด็กคิดและหาคำตอบด้วยตนเอง

2.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริง และนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุง การจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก จำนวนครูที่อยู่ในระดับดีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 85.00 อยู่ในระดับคุณภาพ ดีเลิศ

เด็กแต่ละคนได้รับการประเมินพัฒนาการเป็นรายบุคคลตามสภาพจริงด้วยเครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย ได้รับการประเมินพัฒนาการในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง มีการจัดทำรายงานผลการประเมินพัฒนาการของเด็กให้ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน ส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการประเมิน


ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1kldRkrcDW07UOWZT4EYK2d5ygRWB5JMy/edit
ภาพรวมของสถานศึกษา
มีคุณภาพระดับ  0
กระบวนการพัฒนา
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
ผลการดำเนินงาน
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 
 2.2.2 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
 มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน
มีคุณภาพระดับ  พอใช้
กระบวนการพัฒนา  

สถานศึกษาได้จัดกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายให้เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข

ครูจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา มีการ

ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยมีการจัดการเรียนรู้ทั้งรูปแบบการระดมสมอง แบบลงมือ

ปฏิบัติจริง แบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบใช้กระบวนการคิด กระบวนการใช้ปัญหาเป็นหลัก และเน้นเรื่องการ

อ่านออกเขียนได้ของผู้เรียนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนทุกคนอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ระดับชั้น

ประถมศึกษาปีที่ 1 พัฒนาครูทุกคนให้มีความรู้ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพ

ของผู้เรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง Active Learning ครูผู้สอนในระดับชั้นเดียวกันร่วม

กันกำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลแบบบูรณาการ ครูเน้นการใช้คำถามเพื่อพัฒนาทักษะ

การคิดของผู้เรียน และใช้สื่อเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้และแหล่งสืบค้นข้อมูลในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่

ห้องสมุด 3 ดี ห้องศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (PEER) ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการ

คอมพิวเตอร์ ห้องคณิตศาสตร์ ห้องสภานักเรียน ศูนย์เด็กปฐมวัย ศูนย์ต้นแบบการเรียนรวม ห้องเด็กพิเศษ

แหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดแก่ แปลงเกษตร นอกจากนี้ สถานศึกษาได้มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน พัฒนาคุณธรรมให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีความพอเพียง เน้นให้ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และมีจิตสาธารณะ มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมกันวางแผนการจัดการเรียนการสอน มีการเรียนรู้สู่โลกกว้าง การศึกษากับภูมิปัญญาในชุมชนรอบๆ สถานศึกษา จัดกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ ฟัง เล่นดนตรีไทยและสากล กิจกรรมทำความสะอาดเขตรับผิดชอบ ให้ความรู้เรื่องการกำจัดลูกน้ำ ยุงลาย การประหยัดพลังงานของชาติ การใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า ส่งเสริมการออกกำลังกาย เช่น โครงการกีฬาพัฒนากาย กีฬาวอลเลย์บอล กีฬาเปตอง กีฬายูยิตสู ส่งเสริมงานอาชีพ เช่น งานเชื่อมเหล็กดัดหน้าต่าง ประตู เหล็กปิดรางน้ำ ช่างตัดผม การตัดเย็บเสื้อผ้า การทำเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร น้ำดื่มสะอาด (น้ำกรองที่ได้มาตรฐาน)เป็นต้น
ผลการดำเนินงาน  

ด้านการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการ ผู้เรียนสามารถอ่านออกและอ่านคล่อง ตามมาตรฐานการ

อ่านในแต่ละระดับชั้น สามารถคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดคำนวณ เขียนสื่อสารได้ดี สืบค้นข้อมูลหรือแสวง

หาความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ รู้จักการวางแผน มีความรู้ทักษะพื้นฐานและเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ สามารถ

ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีมีวิถีชีวิตประชาธิปไตยและดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กล้าแสดงออก และแสดงความคิดเห็น รวมถึงมีความเข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างวัยและระหว่างบุคคล ส่งผล

ให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความซื่อสัตย์ กตัญญูกตเวที มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิต

สาธารณะ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี รู้เท่าทันสื่อเทคโนโลยีและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วพร้อม

ทั้งมีความตระหนักถึงโทษและพิษภัยของสิ่งเสพติด สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งไม่สามารถจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้อย่างเต็มที่

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 
1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
มีคุณภาพระดับ  ดี
กระบวนการพัฒนา  
โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้าฯ ได้ดำเนินการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. บูรณาการในกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่ม
2. จัดในกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
3. จัดโครงการ/กิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
4. ปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยสอดแทรกในกิจวัตรประจำวันของสถานศึกษา

ผลการดำเนินงาน  
จากผลการดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน

นักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีขึ้นไป ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา2563 จำนวน 714 คน จาก จำนวน 718 คน คิดเป็นร้อยละ 99.44

ร้อยละของนักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีขึ้นไป

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา  2563

 

ระดับชั้น

จำนวนนักเรียน

ผลการประเมิน

ระดับดี

ขึ้นไป

ร้อยละ

ไม่ผ่าน

ผ่าน

ดี

ดีเยี่ยม

ป.1

65

-

-

-

65

65

100.00

ป.2

87

-

-

3

84

87

100.00

ป.3

67

-

-

-

67

67

100.00

ป.4

82

-

-

24

58

82

100.00

ป.5

85

-

-

-

-

85

100.00

ป.6

72

-

4

34

34

68

94.44

ม.1

88

-

-

24

64

88

100.00

ม.2

91

-

-

14

77

91

100.00

ม.3

81

-

-

19

62

81

100.00

รวม

718

-

4

118

511

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มีคุณภาพระดับ  ดี
กระบวนการพัฒนา  

1. กระบวนการพัฒนา

โรงเรียนได้ประชุมดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมา โดยการศึกษา

ข้อมูลสารสนเทศจากผลการนิเทศ ติดตาม ประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา และจัด

ประชุมระดมความคิดเห็น จากบุคลากรในสถานศึกษาเพื่อวางแผนและร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ปรับวิสัยทัศน์

กำหนด พันธกิจ กลยุทธ์ ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีการปรับแผนพัฒนา

คุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และหาแนวทางในการพัฒนา

และยกระดับคุณภาพนักเรียนให้มีคุณภาพและมาตรฐานอยู่ในระดับที่สูงขึ้น โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับ

สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ตามความต้องการพัฒนานโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรียน และการปฏิรูปการ

ศึกษาในระดับชาติ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการ

พัฒนาตามแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม

ประเมินผลการดำเนินงาน และสรุปผลการดำเนินงาน


ผลการดำเนินงาน  

2. ผลการดำเนินงาน

2.1 สถานศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์และพันธกิจสอดคล้องกับสภาพปัญหาความต้องการ

พัฒนา ของสถานศึกษา นโยบายการปฏิรูปการศึกษา ความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น และสอดคล้องกับ

แนวทางการปฏิรูปตามแผนการศึกษาชาติ

2.2 แผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีสอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนทุก

กลุ่มเป้าหมาย มีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญตามมาตรฐานตำแหน่ง

ข้อมูลสารสนเทศมีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย นำไปประยุกต์ใช้ได้ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ และมีการ

จัดจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่กระตุ้นผู้เรียนให้ใฝ่เรียนรู้

2.3 สถานศึกษามีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปีให้สอดคล้อง

กับสภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายการปฏิรูปการศึกษา โดยผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนา

และร่วมรับผิดชอบ

2.4 ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา มีส่วนร่วมในการร่วมวางแผน

พัฒนาคุณภาพการศึกษา และรับทราบ รับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษา

2.5 สถานศึกษามีการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษาที่

เหมาะสมเป็นระบบและต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา

2.6 สถานศึกษามีรูปแบบการบริหารและการจัดการเชิงระบบ โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมยึดหลัก

ธรรมาภิบาลและแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางปฏิรูปการศึกษา

2.7 สถานศึกษามีการระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่งผลให้สถานศึกษามีสื่อการ

เรียนการสอนโดยการผลิตสื่อการเรียนการสอนใช้เองอย่างน้อยเดือนละ 2 ชิ้น และแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1tyMuay8yacru_97PC_F7ZR-yf9V4x7nJ/edit
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
มีคุณภาพระดับ  ดี
กระบวนการพัฒนา  

กระบวนการพัฒนา

โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการ

สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยการดำเนินงาน/กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ การประชุมปฏิบัติการ

ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้น

พื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติ

(Active learning) ให้ผู้เรียนผ่านกระบวนการคิด ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและคงทน ตาม

มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำผลที่ได้มาปรับปรุงการ

จัดการเรียนรู้ ครูมีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบมีขั้นตอน โดยใช้เครื่องมือและวิธีวัด และ

ประเมินผลที่เหมาะกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ ให้ข้อมูลย้อนหลังแก่ผู้เรียนและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน

ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้

รวมทั้งภูมิปัญหาท้องถิ่น ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูมีการ

บริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก เด็กรักเด็ก เพื่อให้เด็กรักการเรียนรู้และเรียนรู้ร่วมกัน

อย่างมีความสุข ครูร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำข้อมูลมาร่วมพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้และสอนตามแผน ครูใช้สื่อการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกทั้งมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้พื้นฐานและฝึก

ทักษะงานอาชีพให้นักเรียน เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพพื้นฐานได้


ผลการดำเนินงาน  

ผลการดำเนินงาน

ประเด็นภาพความสำเร็จด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่สนับสนุนผล

การประเมินตนเอง ได้แก่หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม กิจกรรมชมรม ให้นักเรียนเลือกตาม

ความถนัดและความสนใจผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง การบันทึกการใช้สื่อ เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้

เอกสารการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียนมีการบริหารจัดการชั้น

เรียนเชิงบวกโดยครูมีวิจัยชั้นเรียนและนำผลไปแก้ไขปัญหาจริง ครูมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลย้อน

กลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ นักเรียนนำเสนอผลงานจากการจัดกิจกรรมการเรียน การ

สอน จากกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ และครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับสถานศึกษาในเครือข่าย และเผยแพร่ผลงานสู่สายตาประชาชน ตามบริบทและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19


ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1tyMuay8yacru_97PC_F7ZR-yf9V4x7nJ/edit
ภาพรวมของสถานศึกษา
มีคุณภาพระดับ  ดี
กระบวนการพัฒนา
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 
คุณภาพของผู้เรียน

สถานศึกษาได้จัดกระบวนการพัฒนาผู้เรียนด้วยวิธีการที่หลากหลายให้เป็นคนดี คนเก่งและมีความสุข
ครูจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน โดยมีการจัดการเรียนรู้ทั้งรูปแบบการระดมสมอง แบบลงมือปฏิบัติจริง แบบร่วมมือกันเรียนรู้ แบบใช้กระบวนการคิด กระบวนการใช้ปัญหาเป็นหลัก และเน้นเรื่องการอ่านออกเขียนได้ของผู้เรียนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนทุกคนอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พัฒนาครูทุกคนให้มีความรู้ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน โดยใช้การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริง Active Learning ครูผู้สอนในระดับชั้นเดียวกันร่วมกันกำหนดแผนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลแบบบูรณาการ ครูเน้นการใช้คำถามเพื่อพัฒนาทักษะการคิดของผู้เรียน และใช้สื่อเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้และแหล่งสืบค้นข้อมูลในการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ ห้องสมุด 3 ดี ห้องศูนย์พัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ (PEER) ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ห้องคณิตศาสตร์ ห้องสภานักเรียน ศูนย์เด็กปฐมวัย ศูนย์ต้นแบบการเรียนรวม ห้องเด็กพิเศษ แหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไดแก่ แปลงเกษตร นอกจากนี้ สถานศึกษาได้มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียน เพื่อให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข เน้นการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรมที่เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน พัฒนาคุณธรรมให้ผู้เรียนเป็นคนดี มีความพอเพียง เน้นให้ผู้เรียนมีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และมีจิตสาธารณะ มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาร่วมกันวางแผนการจัดการเรียนการสอน มีการเรียนรู้สู่โลกกว้าง การศึกษากับภูมิปัญญาในชุมชนรอบๆ สถานศึกษา จัดกิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ ฟัง เล่นดนตรีไทยและสากล กิจกรรมทำความสะอาดเขตรับผิดชอบ ให้ความรู้เรื่องการกำจัดลูกน้ำ ยุงลาย การประหยัดพลังงานของชาติ การใช้น้ำ ใช้ไฟฟ้า ส่งเสริมการออกกำลังกาย เช่น โครงการกีฬาพัฒนากาย กีฬาวอลเลย์บอล กีฬาเปตอง กีฬายูยิตสู ส่งเสริมงานอาชีพ เช่น งานเชื่อมเหล็กดัดหน้าต่าง ประตู เหล็กปิดรางน้ำ ช่างตัดผม การตัดเย็บเสื้อผ้า การทำเครื่องดื่มน้ำสมุนไพร น้ำดื่มสะอาด (น้ำกรองที่ได้มาตรฐาน) เป็นต้น

กระบวนการบริหารและการจัดการ
โรงเรียนได้ประชุมดำเนินการวิเคราะห์สภาพปัญหา ผลการจัดการศึกษาที่ผ่านมา โดยการศึกษา
ข้อมูลสารสนเทศจากผลการนิเทศ ติดตาม ประเมินการจัดการศึกษาตามนโยบายการปฏิรูปการศึกษา และจัดประชุมระดมความคิดเห็น จากบุคลากรในสถานศึกษาเพื่อวางแผนและร่วมกันกำหนดเป้าหมาย ปรับวิสัยทัศน์ กำหนด พันธกิจ กลยุทธ์ ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน มีการปรับแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา และหาแนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพนักเรียนให้มีคุณภาพและมาตรฐานอยู่ในระดับที่สูงขึ้น โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ตามความต้องการพัฒนานโยบายการจัดการศึกษาของโรงเรียน และการปฏิรูปการศึกษาในระดับชาติ พร้อมทั้งจัดหาทรัพยากร จัดสรรงบประมาณ มอบหมายงานให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการพัฒนาตามแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน และสรุปผลการดำเนินงาน

กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
โรงเรียนอนุบาลบ้านหนองคล้า (จงจินต์ รุจิรวงศ์ อุปถัมภ์ 2) ส่งเสริมให้ครูจัดกระบวนการเรียนการ
สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยการดำเนินงาน/กิจกรรมอย่างหลากหลาย ได้แก่ การประชุมปฏิบัติการ
ปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษา สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดฯ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้น
พื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติ
(Active learning) ให้ผู้เรียนผ่านกระบวนการคิด ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและคงทน ตาม
มาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรสถานศึกษา รวมทั้งร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำผลที่ได้มาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ ครูมีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบมีขั้นตอน โดยใช้เครื่องมือและวิธีวัด และประเมินผลที่เหมาะกับเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ ให้ข้อมูลย้อนหลังแก่ผู้เรียนและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน ครูมีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำไปใช้จัดกิจกรรมได้จริง ครูใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งภูมิปัญหาท้องถิ่น ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ โดยสร้างโอกาสให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก ให้เด็กรักครู ครูรักเด็ก เด็กรักเด็ก เพื่อให้เด็กรักการเรียนรู้และเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข ครูร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำข้อมูลมาร่วมพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนรู้และสอนตามแผน ครูใช้สื่อการเรียนการสอน นวัตกรรมและเทคโนโลยีอีกทั้งมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้พื้นฐานและฝึกทักษะงานอาชีพให้นักเรียน เพื่อให้นำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพพื้นฐานได้
ผลการดำเนินงาน
(ควรนำเสนอจุดเด่นของแต่ละมาตรฐานที่ส่งผลต่อภาพรวม)
 

คุณภาพของผู้เรียน

ผู้เรียนใช้ทักษะการอ่าน การเขียน ในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสมรรถภาพทางกายและน้ำหนักส่วนสูงตามเกณฑ์ มีระเบียบวินัย คุณธรรม จริยธรรม รู้จักตนเอง ผ่านเกณฑ์การปะเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์8ประการ ของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช2551 (ฉบับปรับปรุง พ.. 2560) ประพฤติตนตามค่านิยมหลักของคนไทย12 ประการ มีความรักสามัคคีกันในหมู่คณะ ดำรงชีวิตโดยยึดแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมที่มีความแตกต่างหลากหลาย มีจิตสำนึกในการช่วยเหลือและพึ่งพาซึ่งกันและกัน มีสุนทรียภาพด้านศิลปะ ดนตรีและกีฬา จนเป็นที่ยอมรับของสาธารณชนมีทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ภายใต้สถานการณ์โรคระบาด COVID-19

 

กระบวนการบริหารและการจัดการ

โรงเรียนมีการบริหารและมีการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยนำเทคนิคที่หลากหลายมาใช้ในการบริหารจัดการ เช่น การประชุมแบบมีส่วนร่วมระหว่างผู้บริหารสถานศึกษากับบุคลากรในโรงเรียนการประชุมระดมสมอง การประชุมตามกลุ่มงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน มีการปรับแผนที่วางไว้เพื่อให้ตรงตามแผนปฏิบัติการ แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และนโยบายของสถานศึกษา ที่สอดคล้องกับผลการจัดการศึกษา สภาพปัญหา ความต้องการพัฒนา และนโยบายปฏิรูปการศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพ มีการดำเนินการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน และจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษา และได้ใช้กระบวนการวิจัยในการรวบรวมข้อมูล เพื่อใช้เป็นฐานในการวางแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา

การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ

ครูมีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาการสอน โดยจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ ที่เน้นทักษะกระบวนการคิด ได้ปฏิบัติจริง มีการใช้วิธีการและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย ให้นักเรียนแสวงหาความรู้จากสื่อเทคโนโลยีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง นักเรียน มีส่วนร่วมในการจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อมที่เอื้อ ต่อการเรียนรู้รวมไปถึงการจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปรับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้เรียนอย่างเต็มศักยภาพ

ระบุร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
(แนบลิงค์)
 https://docs.google.com/document/d/1tyMuay8yacru_97PC_F7ZR-yf9V4x7nJ/edit
 2.3 ภาคผนวก
 https://drive.google.com/drive/folders/1iCxXfAemxLw3OpVVIMM-zl0CsVCIiKyX?usp=sharing